Tuesday, June 12, 2007

Freezing of Assets ordered

The Assets Examination Committee has ordered the assets of the tyrant and his family be frozen.

The Nation summarizes the long statement into this short form.

All I can say is this is a just and fair action.

Members of this committee are highly respected individuals regarded for their honesty, straighforwardness, fairness, and high integrity. If the tyrant and family members were "good," there is NO way in the world that the AEC members would do such a thing.

We patriot Thais are deeply grateful for the AEC members for their patriotism, for their daring endeavor against evil people's corruption and wrongdoing, and for risking their lives to prove that there are people worthy of calling themselves righteous.

I for one will always be forever grateful.

Here are the details in Thai (from Matichon newspaper)

รายงานข่าวเปิดเผยถึงเบื้องหลังการออกมติอายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณของคตส.ว่า ที่ประชุมได้ประชุมลับโดยไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุม มีเพียงคตส. 11 คนเท่านั้น โดยใช้เวลาหารือเคร่งเครียดนานกว่า 5 ชั่วโมง ปรากฏว่าที่ประชุมเสียงแตกเป็น 7 ต่อ 4 โดยเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายอำนวย ธันธรา นายจิรนิติ หะวานนท์ นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ และนายสัก กอแสงเรือง โดยเห็นว่ากระบวน การทางกฎหมายยังไม่ถึงที่สิ้นสุด พยานหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ หากเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล อาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการอย่างไรต่อไปได้

เผยชื่อเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย

สำหรับกรรมการคตส.เสียงข้างน้อย 4 คนนั้น 2 ใน 4 คนเป็นกรรมการที่มาจากสายตุลาการคือ นายอำนวย ธันธรา อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายจิรนิติ หะวานนท์ ผู้ช่วยผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ และนายสัก กอแสงเรือง ทั้ง 2 คนเป็นกรรมการที่ดูแลเรื่องการสอบสวนการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป โดยนายสักเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีที่คตส. ยื่นฟ้องนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และคุณหญิงพจมาน กรณีการเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ฯ และนายวิโรจน์เป็นประธานอนุกรรมการสอบสวนการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป โดยขณะนี้กำลังสอบสวนเรื่องการซื้อขายหุ้นแอมเพิลริช ซึ่งสำนวนยังไม่สมบูรณ์

ส่วนเสียงข้างมาก 7 คน ประกอบด้วยนายนาม ยิ้มแย้ม นายกล้านรงค์ จันทิก นายแก้วสรร อติโพธิ นายอุดม เฟื่องฟุ้ง นายบรรเจิด สิงคะเนติ นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เชื่อว่ามีมูลทุจริตจึงเห็นควรให้อายัดทรัพย์ เพราะหากไม่ดำเนินการในช่วงนี้เมื่อถึงชั้นศาล และศาลพิพากษาว่ามีการกระทำผิด มีการทุจริต เมื่อต้องการยึดทรัพย์ เงินในบัญชีดังกล่าวอาจจะไม่เหลือ

ถกเครียด3ประเด็นก่อนมีมติ

ทั้งนี้ ที่ประชุมถกกัน 3 ประเด็นคือ 1.พฤติการณ์ทุจริตประพฤติมิชอบ 2.ร่ำรวยผิดปกติ 3.ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรได้ โดยข้อ 2 และ 3 มีความเกี่ยวพันจากการใช้อำนาจหน้าที่ ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ยังตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนเงินที่จะอายัด เนื่องจากขณะเข้ารับตำแหน่งมูลค่าหุ้นของบริษัทชินคอร์ป ประมาณ 2 หมื่นล้าน แต่เมื่อพ้นตำแหน่งมูลค่าหุ้นสูงถึง 7 หมื่นกว่าล้านบาท มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นถึง 5 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวเผยว่า ที่ประชุมถกเถียงกันมากถึงจำนวนทรัพย์สินที่ต้องอายัด เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้อายัดทั้งหมด 7 หมื่นล้าน แต่อีกส่วนหนึ่งให้อายัด 5 หมื่นล้านที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ใช้ในการสั่งอายัด เนื่องจากพบว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนเงินออกนอกบัญชีกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทั้งยังพบพฤติกรรมของคุณหญิงพจมาน ที่นำเงินสดไปซื้อเครื่องเพชรและนำออกนอกประเทศ เพื่อไปขายเป็นเงินสดอีกทอดหนึ่ง จึงเกรงว่าถ้าไม่เร่งสั่งอายัดทรัพย์จะมีการเบิกถอนเพิ่มขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อถึงขั้นการลงมติ ปรากฏว่ากรรมการเสียงข้างน้อยทั้ง 4 คนกลับนิ่งเฉย ไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติม แต่ขอดูมติที่คตส.จะเขียนออกมาว่าเป็นอย่างไร จึงต้องปรับแก้มติถึง 6-7 ครั้ง โดยมอบหมายให้นายแก้วสรร อติโพธิ นายกล้านรงค์ จันทิก และนายบรรเจิด สิงคะเนติ เป็นผู้ร่วมกันร่างมติ

ผลักดัน2ครั้งแต่ไม่สำเร็จ

แหล่งข่าวกล่าวว่า การเสนอเรื่องการอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น คตส.จัดเตรียมครั้งแรกตั้งแต่เดือนเม.ย. และเดือนพ.ค.เป็นครั้งที่สอง แต่ต้องตกไป โดยเฉพาะในการผลักดันครั้งที่สอง หลังจากนายกล้านรงค์ซึ่งเป็นอนุกรรมการสอบสวนการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป และเป็นอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องการแปลงภาษีสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ได้ผลักดันให้คตส.ออกมติเพื่ออายัดทรัพย์ เพราะพบว่าการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ มีเหตุผลเพียงพอที่จะสั่งอายัดทรัพย์สินได้ เนื่องจากคตส.ตรวจสอบพบการเคลื่อน ไหวเงินในบัญชีของพ.ต.ท.ทักษิณและคนใกล้ชิดอย่างผิดสังเกต แต่ปรากฏว่าข่าวรั่วเสียก่อน ประกอบกับนายสักกับนายวิโรจน์ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการอายัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ทำให ้คตส.ต้องระงับการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือที่ประชุม

กระทั่งกรรมการคตส.ที่เป็นคีย์แมนสำคัญในการพิจารณาเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติการณ์ที่ประพฤติผิดมากเพียงพอแล้ว ทั้งเรื่องการคอร์รัปชั่นและการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้ผลักดันให้นำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคตส.เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในช่วงเย็นวันที่ 8 มิ.ย. นายแก้วสรรได้หอบเอกสารหนาหลายร้อยหน้าเข้าพบกับนายนามที่ห้องทำงาน เพื่อหารือเป็นการส่วนตัวนานเกือบ 15 นาที คาดว่าเป็นการหารือถึงข้อกฎหมายในการอายัดทรัพย์ดังกล่าว จนมีมติดังกล่าวออกมาในที่สุด โดยกรรมการคตส.ที่เป็นแกนนำเสนอเรื่องการอายัดทรัพย์คือคุณหญิงจารุวรรณ นายแก้วสรร นายบรรเจิด และนายกล้านรงค์

เตรียมตั้งชุดติดตามการอายัด

รายงานข่าวจากคตส.เปิดเผยว่า คตส.ได้นัดประชุมด่วนในวันที่ 13 มิ.ย. เพื่อจัดตั้งคณะทำงานติดตามตรวจสอบการอายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณและพวก เพื่อรองรับทำเรื่องการอายัดทรัพย์โดยเฉพาะ เช่น หากมีการยื่นคำคัดค้านคำสั่งอายัดทรัพย์ก็จะให้คณะทำงานชุดนี้เป็นผู้พิจารณา โดยจะให้ตัวแทนจากธปท.มาร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วย

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขาฯคตส. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในหนังสือคำสั่งที่ประธานคตส.ส่งถึงสถาบันการเงินเพื่อให้ปฏิบัติตามมติคตส. ในการอายัดบัญชีธนาคารของพ.ต.ท.ทักษิณและพวก 21 บัญชี และให้รายงานการตรวจสอบการไหลเวียนของเงินฝากในบัญชีดังกล่าวนั้น คตส.สั่งให้ทุกธนาคารต้องรายงานกลับมาที่คตส.ภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ 12 มิ.ย. โดยเบื้องต้นคตส.ตรวจสอบแล้วพบว่าเงินในบัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ในบัญชีธนาคารที่คตส.อายัดทรัพย์ไว้นั้น เหลือเงินสดฝากไว้ไม่มากนัก ส่วนบัญชีของบุคคลอื่นๆ ใน 21 บัญชีพบว่า ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.จนถึงวันที่ 11 มิ.ย. แต่ละคนเหลือเงินในบัญชีไม่มาก และหลายคนเงินหายไปพอสมควร ดังนั้น ต้องไปดูว่าเงินที่หายไปแต่ละคนต้องมาชี้แจงกับคตส.ว่าใช้ไปทำอะไรบ้าง โดยจะต้องชี้แจงกับคณะอนุกรรมการที่คตส.จะตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อดูแลเรื่องการอายัดทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้จะมีใครบ้างต้องรอมติที่ประชุม แต่ส่วนใหญ่จะต้องเป็นคนที่ทำงานด้านการติดตามบัญชีของคนที่โดนอายัดทรัพย์เป็นการเฉพาะ

Wednesday, May 30, 2007

Tyrant's Guilts - updated

* ปัญหาของรัฐบาลทักษิณ (รวมเด็ดสะเก็ดแผล - ทักษิณ)
1. นโยบาย บริโภคนิยม ส่งเสริมหนี้ภาคครัวเรือน ฟุ้งเฟ้อ มอมเมาประชาชน และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
- กองทุนหมู่บ้าน
- ธนาคารประชาชน
- แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
- หวยบนดิน
- ออกหวยซื้อหุ้น Liverpool
- เปิดบ่อนเสรี
- เปิดเสรีสุรา
- เอาเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น
- กทม. เมืองแฟชั่น
- ครีมหน้าเด็ง
- บัตรสมาชิก ไทยแลนด์อีลิทการ์ด
- Complex Entertainment
- Mega Project
- ส่งเสริมเงินกู้ทั้งในและนอกระบบ (Bank & Non-Bank)
- ใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียง (ทัวร์นกขมิ้น)

2. นโยบายสร้างภาพ หาเสียง ฉาบฉวย หลอกลวง และรัฐไม่เคยแถลงผลสำเร็จ
- พักหนี้เกษตรกร
- ปฏิรูปการศึกษา
- จัดระเบียบสังคม
- ผู้ว่า CEO
- ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
- ลงทะเบียนคนจน
- ส่ง 23 รมต. แก้ปัญหาภาคใต้ (แต่ไม่มีใครไป)
- ไปนอนวัดที่นราธิวาส
- ไปนอนที่สนามบินสุวรรณภูมิ
- ทำกับข้าว
3. นโยบาย และการกระทำสิ้นคิดของ นายก และคนในรัฐบาล
- เปิดบ่อนเสรี
- ซื้อหุ้น Liverpool
- เปลี่ยนนาข้าวเป็นนากุ้ง (ทำให้น้ำและดินเน่าเสีย)
- สร้างคอนโดเป็นบ้านพักคนชรา (ให้อาศัยอยู่ห้องทึบในตึกสูง)
- ตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.เชียงแสน (แหล่งโบราญสถาน)
- สส.รัฐบาลเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
- โภคินนั่งเก้าอี้ ประธานรัฐสภา ยกมือเลือกนายก (ไม่เหมาะสม ไม่เป็นกลาง)
- ทักษิณ เป็นประธานประกอบพิธีศาสนา ในอุโบสถวัดพระแก้ว (ประธานต้องเป็นกษัตริย์เท่านั้น)
- ประชุม ครม. บนรถไฟ (ไปเที่ยว)
- ประชุม ครม. บนประสาทพนมรุ้ง
- ยึดและฟ้องผู้ทำสติกเกอร์ "ยิ่งรวยยิ่งโกง" (อ้างหมิ่นฯ โยนผิดให้ฝ่ายค้าน)
- กำหนดแบ่ง Zone พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็น 3ระดับ (3 สี แดง, เขียว, เหลือง)
- ย้าย 3 ข้าราชการที่ไม่สนองนโยบายขายลำไย ไปประจำใน 3 จังหวัดภาคใต้
- ติด UBC 3 จังหวัดภาคใต้
- เปลี่ยนเพลงชาติไทยใหม่ มีให้เลือก 6 แบบ (แต่งโดยแกรมมี่)
- พานทองแท้ลอกโพยข้อสอบที่ ม.ราม
- ปิดถนนแข่งรถซิ่ง
- โครงการ อาชีวะปราบขอทาน
- นโยบายปิดปอเนาะทั่วประเทศ
- เปลี่ยนสนามบินดอนเมือง เป็นสนามเทนนิส
4. ทุจริต หรือส่อเจตนาทุจริต
- คดีซุกหุ้น (โอนให้คนรับใช้ คนขับรถ)
- ค่าโง่ทางด่วน
- ค่าโง่ ITV
- บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
- โครงการรับจำนำข้าว
- โครงการรับซื้อลำไย
- โครงการโคล้านตัว
- โครงการแจกต้นกล้ายาง
- เครื่องตรวจระเบิด CTX
- ที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ
5. เหตุการณ์ และคดีที่มีเงื่อนงำ และเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล
- ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตาย (เกี่ยวข้องธุรกิจอุปกรณ์ดาวเทียมไทยคม)
- อุ้มทนายสมชายฯ
- กรือเซะ, ตากใบ
- ฆ่าตัดตอนคดียาเสพติด 2000 กว่าศพ
- ตำรวจบุกทุบทำลายบ้านฉลอง เรี่ยวแรง (ก่อนวันสอบซ่อม สส. นนทบุรี)
- จับยาบ้าผิดตัว ตำรวจบุกยิงถล่มชาวบ้านอยุธยา (บ้าน/ตู้เย็น พรุ่นทั้งหลัง)
- ข้อสอบ Entrance รั่ว (ก่อนอุ๊งอิ๊งติดจุฬาฯ)
- นายนิธินันท์ หรือ ลัทธพล ออกมาแฉทุจริตที่จอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิ กลับไปกลับมา
- รันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิแตกร้าว
6. การระเมิดสิทธิเสรีภาพ
- รัฐบาลคุกคาม แทรกแซงการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
- ปลด 23 พนักงาน ITV (หลังจากชินคอป์เข้าบริหาร)
- บังคับให้ สส.กลุ่มวังน้ำเย็นถอนชื่อ การคัดค้านเสนอผู้ว่า สตง.
- งัดห้องทำงานผู้ว่า สตง. (คุณหญิงจารุวรรณฯ) เรื่องสถานะคุณหญิงจารุวรรณยังหาข้อสรุปไม่ได้ ยืดเยื้อมาจนบัดนี้แล้ว
- สั่งปิดวิทยุชุมชนที่วิจารณ์รัฐบาล (อ้างคลื่นรบกวนเครื่องบิน)
- ถอดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
7. ด้านเศรษฐกิจ / ตลาดหุ้น
- คลังฮุบหุ้น TPI (เป็นการปล้นอย่างหน้าด้านๆ ไม่มียางอาย ไม่มีหิริโอตัปปะ)
- หลอกแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขายสมบัติชาติ แอบแบ่งหุ้นให้พรรคพวก และต่างชาติ แต่รัฐยังเป็นเจ้าของและแทรกแซงได้เหมือนเดิม เช่น การบินไทย, ปตท., อสมท., กฟผ., กสท., TOT
- รัฐพยายามหาทางเอาเงินประชาชน กบข. (ราชการ) กองทุนประกันสังคม, กบช. (เอกชน) ไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆอย่างฟุ่มเฟือย
- GMM แกรมมี่ และคนในรัฐบาลซื้อหุ้น นสพ. การเมือง 5 ฉบับ (มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, Bangkok Post, Post Today) พร้อมกัน โดยไม่สมเหตุสมผล และฟังไม่ขึ้น ส่อเจตนาเข้ามายึดครอง)
8. ด้านกฎหมาย / อำนาจนิยม ที่ส่อเจตนาทุจริต และสร้างฐานอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเครือญาติ
- แต่งตั้ง ญาติ พี่น้อง เพื่อน พรรคพวก ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการ การเมือง ตำรวจ ทหาร เพื่อรวบอำนาจบริหาร - ปกครอง
- แทรกแซงองค์กรอิสระ ด้วยวิธี ดูด, ดึง, ซื้อ, ส่งคนเข้าไปคุม เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครอง, กลต., ปปง., ปปช., คตง., สว. (บางส่วน)
- แทรกแซงสถาบันสงฆ์ (ออก พรก.แต่งตั้งรักษาการสมเด็จพระสังฆราชโดยพลการ)
- ศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน สว. แทรกแซงและแต่งตั้งผู้ว่า สตง. คนใหม่อย่างมีเงื่อนงำ และไม่มีเหตุผลสมควร
- การสรรหา กสช. และ กทช. ไม่โปรงใส
- พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ถูกตีกลับ
- พระราชกฤษฎีกา บำเหน็จบำนาญ สส. และ สว.
- ออก พระราชกำหนด สรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม เพื่อผลประโยชน์และกีดกันคู่แข่งทางธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ (AIS)
- ออก พระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างฐานอำนาจเบ็ดเสร็จ
- โผทหารของนายก และ การลงนามแต่งตั้งช้ากว่าปกติ
9. ปัญหา บ้านเมืองไทยในปัจจุบันนี้
- ระเบิด และคนถูกฆ่า ใน 3 จังหวัดภาคใต้ (ที่เปลี่ยน แม่ทัพ, ผอ., ผู้กำกับ, รมต., รองนายก แล้วหลายคน แต่ยังไม่เปลี่ยน นายก จึงแก้ปัญหาไม่ได้)
- ราคาน้ำมันแพงเกินเหตุ (แต่ ปตท. กำไรแสนล้าน)
- เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนถูกสอนให้ +++้เงิน ใช้เงิน แต่ไม่เน้นให้ความรู้ในการประกอบอาชีพ และประหยัดในแบบ เศรษฐกิจพอเพียง)
- ไม่มีระบบตรวจสอบ และ คานอำนาจรัฐบาล (ฝ่ายค้าน, องค์กรอิสระ) เป็นง่อยทำอะไรไม่ได้
- รมต. ก่อนจะรับ หรือพ้นตำแหน่ง ไม่มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินให้ประชาชนรู้เหมือนเมื่อก่อน
- ปัญหาสังคม, ครอบครัว, บัตรเครดิตเต็มเมือง, ประชาชนเป็นหนี้ท่วมตัว, ตกงาน, อาชญากรรม, จี้, ปล้น, การพนัน, โรคจิต, ทิ้งเด็ก, รถซิ่ง, นักเรียนตีกัน, ขายตัว, ส่วยตำรวจ
10. สิ่งที่ทักษิณซื้อ
บุคคล และองค์กร เช่น
ข้าราชการ, สส., สว., พรรคการเมือง, องค์กรอิสระ, นักวิชาการ, สื่อมวลชน, ประชาชน, วัง, ประเทศไทย
ธุรกิจ เช่น
- สัมปทานโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่ (บ. AIS)
- ดาวเทียมไทยคม, IP Star (บ. ชินแซคฯ)
- อินเตอร์เนท (บ. CS Loxinfo)
- สายการบิน (AIR ASIA)
- สถานีโทรทัศน์ (ITV)
- มหาวิทยาลัย (ม.ชินวัตร)
- โรงพยาบาล (พญาไท)
- ธนาคาร (Non-Bank Capital OK)
- บริษัทโฆษณา
- ฯลฯ
11. คำพูด คำสัญญาของรัฐบาล ที่ไม่เป็นจริง
- ผมจะแก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 6 เดือน
- จะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5 % ภายในตุลาคม 2548 (ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจสุริยะฯ)
- โครงการย้ายที่ตั้งรัฐสภาไปรังสิต (บ.ไทยเมล่อน)
- โครงการย้ายส่วนราชการ ไป จ.นครนายก
12. วีรกรรม และคำคม (ของทักษิณ)
- ด่านักวิชาการที่ให้คำแนะนำรัฐบาล
- ด่าวิชาชีพทนาย
- ด่า UNSCR กลางที่ประชุมสหประชาชาติ (ห้ามยุ่งกับปัญหาภาคใต้ไทย)
- "UN ไม่ใช่พ่อ"
- "พวกนี้มันโจรกระจอก" (ปัญหาภาคใต้)
- "ไม่ต้องตกใจ มันแค่โรคอหิวาระบาด" (ปัญหาไข้หวัดนก)
- "เป็นพระอยู่ส่วนพระ ไม่สมควรพูดเรื่องการเมือง ถ้าพูดก็ไม่สมควรเรียกว่าพระ"
- "แมง...+++พวกนักวิชาการก็เอาแต่ติ"
- "พูดเรื่องพระราชอำนาจ ระวังเหาจะกินหัว"
13. คนดีมีอุดมการณ์ แต่ถูกกลั่นแกล้ง และอยู่ในรัฐบาลไม่ได้
- ดร.เกษม วัฒนะชัย
- ดร.ปุระชัย เปรี่ยมสมบูรณ์
- นายวิโรจน์ นวลแข

ท้ายนี้หวังว่าผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ นายกทักษิณ จะได้ตอบ ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จต่อไป หากตอบไม่ได้ ไม่ชัดเจน หรือไม่ตอบ ไม่แก้ไข และเมื่อคำถามมีมากขึ้น เมื่อนั้นรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ผู้รวบรวม อดีตนักศึกษา 3 สถาบัน (RIT, KMITL, AIT) ผ่านศึกมาแล้ว 3 สังเวียน
- 14 ตุลา 16
- 6 ตุลา 19
- พฤษภาทมิฬ 35
รวมเด็ดสะเก็ดแผล - ทักษิณ
* ปัญหาของรัฐบาลทักษิณ

รวบรวมโดย "ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว สำหรับชาวรากหญ้าใต้ดิน"
30 May 2007

[This is only a partial list. There are a lot more evil deeds.]

TRT ordered to dissolve

FINALLY, the crooked TRT party was ordered to dissolve.

Thank you, Constitutional Court Judges!

Sunday, October 01, 2006

Revealing the Evil Plan

This e-mail message has been circulated to warn of Thaksin's grand evil plan...

Subject: รักในหลวงจงอ่านให้เข้าใจ แล้วส่งต่อๆๆๆ ด่วนที่สุด
Date: Thu, 21 Sep 2006 05:25:08 -0800
ก่อการกบฎเพื่อความอยู่รอดบนกองซากศพโดยทักษิณ ชินวัตร
ผู้เขียน : ธุลีพระบาท

สถานการณ์การเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน ได้ทำให้ประชาชนไทยเรียนรู้ถึงความเด่นชัดของ คำว่า "พระบารมี" กับคำว่า "ทรราช" ด้วยตาตนเอง เราได้มองเห็นพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้สร้างเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ไม่อาจลืมเลือนไปจนกว่าเราจะสิ้นใจ นั่นคือภาพของความยิ่งใหญ่แห่งพระมหากษัตริยาธิราช ผู้ทรงไว้ด้วยทศพิธราชธรรม และพระเมตตาบารมีอันหาที่สุดมิได้แก่เหล่าพสกนิกรของทูลกระหม่อม ทรงได้รับการเทิดไว้เหนือเกล้า สถิตย์ ณ ดวงใจของเราชาวไทยทุกคน และความปิติสุข และเปล่งเสียงจากหัวใจของเราทั่วทั้งแผ่นดินว่า “ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" ณ ทุกที่ที่ทรงเสด็จไปทรงประทับอยู่ และทรงเป็นผู้ประทับอยู่ในความทรงจำของเราและโลกชั่วนิจนิรันดร์

ในขณะที่มีบุคคลอีกหนึ่ง ที่ได้รับการก่นด่าสาปแช่งไปทั่วประเทศ ซึ่งได้แสดงพฤติกรรมของตนเอง ตีตนเสมอเทียบเท่าปานประหนึ่งตนเองนั้นต่างหากเล่าคือ พระมหากษัตริย์เสียเอง นามอันเป็นอัปมงคลที่จะถูกจารึกเป็นบทเรียนสอนลูกหลานนั้นคือทักษิณ ชินวัตร!!! ข้อมูลที่จะปรากฎต่อไปนี้ คือสิ่งที่จะคงอยู่เพื่อเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่แม้จะเล็กๆ แต่ก็จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นลูกหลานในอนาคตของแผ่นดินนี้ และผู้คนทั่วโลก

ทักษิณ ชินวัตร วางแผนเตรียมก่อการกบฏล้มล้างราชวงศ์จักรี และฆ่าล้างประชาชนผู้ต่อต้านทุกคน เพื่อขึ้นปกครองประเทศในฐานะผู้สถาปนาราชวงศ์ใหม่แทนที่รัชกาลปัจจุบัน เป็นการเริ่มต้นคำพยากรณ์เรื่องการไร้ซึ่ง รัชกาลที่ 10 พร้อมควบรวมตำแหน่งตนเองในฐานะ ประธานาธิบดี อีกตำแหน่ง เปลี่ยนการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" เป็น "การปกครองในระบอบเผด็จการทรราชทุนนิยมเบ็ดเสร็จ" ซึ่งดำรงอยู่ด้วยกุศโลบาย คนเดียวปกครองและตัดสินใจทุกเรื่อง ใครตามข้าอยู่ ใครขวางข้าตาย!!!

ตลอดเวลาของการปกครองของประเทศไทย ได้ถูกเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข โดย "คณะราษฎร" ในปี 2475 คณะราษฎร ซึ่งประกอบด้วยนักการศึกษาไทยในยุคนั้น ที่ได้รับทุนหลวงและโอกาสไปศึกษายังประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สมคบคิดกับผู้นำทหารและข้าราชการผู้โลภในผลประโยชน์ ทำการปล้นชิงพระราชอำนาจจากพระมหากษัตริย์ องค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อหวังจะสร้างประชาธิปไตยตามแบบของประเทศที่ คณะราษฎร เรียกว่า อารยะ และใช้การบริหารประเทศผ่านรัฐบาล และ สภาโดยปราศจากการแทรกแซงของ สถาบันพระมหากษัตริย์ ตัดขาดความสัมพันธ์โดยตรงจากดั้งเดิม ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์โดยตรง ผ่านถวายงานต่างพระเนตรพระกรรณ อันเป็นเกียรติของผู้เป็นข้าราชการ ทุกคน และทำให้ข้าราชการต้องตกอยู่ใต้อำนาจของ คณะราษฎร และทรงยอมที่จะลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูฉบับแรกของประเทศ ตามที่คณะราษฎร กราบบังคมทูลขอพระราชทาน ซึ่ง ท่านรัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ ได้ทำการลับเพื่อรักษาพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไว้ ในรูปของกฎหมายรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา โดยผู้ก่อการฝ่ายต่างๆ ไม่รู้สึกคัดค้านและปล่อยผ่าน และด้วยพระปรีชาสามารถของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ทรงทราบถึงจิตเจตนาของผู้ก่อการณ์ จึงทรงละเว้นการนองเลือดสูญเสีย และได้พระราชทานพระราชอำนาจของพระองค์ โดยมีลายราชหัตถเลขากำกับมาพร้อมกันนั้น โดยใจความสรุปคือ "พระองค์ทรงพระราชทานพระราชอำนาจให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน มิใช่ให้แก่คณะบุคคลหรือบุคคลผู้หนึ่งผู้ใด" และด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้ ทำให้ผู้พยายามรวมกำลังเข้าทำการกู้พระราชอำนาจขององค์รัชกาลที่ 7 กลับคืนมา จึงไม่ถูกสังหารจนหมดสิ้น ดังที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “คณะผู้ก่อการกบฏต่อรัฐบาลในนาม กบฏพระองค์เจ้าบวรเดช" แต่ก็ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ของเกาะตารุเตา ที่ใช้เพื่อกักกันนักโทษการเมืองในเวลานั้น

กลับมาสู่ยุคปัจจุบัน พ.ศ. 2549 ทักษิณ ชินวัตร เตรียมพร้อมตลอดเวลาในการก่อการกบฏล้มล้างราชบัลลังก์ หมายพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ และได้เดินแผนกุศโลบายทุกด้าน ทั้ง การเมือง เศรษฐกิจ การทหาร ข้าราชการ และ มวลชน เพื่อแทรกซึม แทรกแซง ทำให้อ่อนแอ และควบคุมอำนาจสั่งการ จนวันนี้ ทุกระบบอ่อนแอและไร้ทิศทาง ทักษิณ ชินวัตร จับมือกับอดีตผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเขตงานอีสานใต้ ดังที่ได้รับทราบจากการเปิดเผยของทั้ง คุณคำนูณ สิทธิสมาน และอาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ ตลอดจนอดีตผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเรียกว่าเป็น “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" หรือ "ผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยสายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์" ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ต่างไม่ยอมรับปฏิบัติการของเขตงานอีสานใต้ และประกาศตัดขาดจากกลุ่ม สโมสรหนึ่งเก้าและรับทราบกันโดยทั่วไปว่า “เป็นคอมมิวนิสต์ผู้ร่วมก่อการล้มล้างราชบัลลังก์" ที่นำโดย พรหมมินทร์ ภูมิธรรม จาตุรนต์ พงษ์เทพ

ส่วนกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่า และ 1 องค์กร คือ ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ตำรวจ ก็ถูกแทรกแซงและควบคุมโดย เตรียมทหาร รุ่น 10 ในระดับบัญชาการ ในภาคการเมือง คือการทำลายองค์กรอิสระ และปิดปากกระทั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ตามประกบติดกรรมสิทธิมนุษยชน จนถึง ทำลายทนายสมชายจนกลายเป็นฝุ่นหายไปจากโลก (ทนายสมชายตายแล้วและถูกเผาทำลายศพจนไม่เหลือซาก)

ระบบข้าราชการ คือ การสั่งการโดยระดับรัฐมนตรีเพื่อทำลายความจงรักภักดีจนสิ้นสภาพ และเปลี่ยนข้าราชการให้กลายเป็นพนักงานรัฐ ซึ่ง พนักงานรัฐต้องจงรักภักดีต่อนักการเมือง ต่อผู้กุมอำนาจรัฐ

ในภาคมวลชน ก็ใช้เงินเข้าไปทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ จนลืมเลือนวิถีชีวิตพอเพียง และสร้างภาระหนี้สินครัวเรือนกระจายไปทั่วประเทศ

ในส่วนภาคธุรกิจ บีบองค์กรธุรกิจให้สยบยอมและทำให้วงจรการเงินที่เป็นหัวใจของการลงทุนคือ ธนาคาร กลายสภาพไปเป็นธนาคารของต่างชาติ จนภาคธุรกิจวันนี้ กำลังล้มตายทุกวัน และที่อยู่ได้ก็แค่หายใจรวยรินเหมือนปลากำลังจะตายเพราะขาดน้ำ

เมื่อวันนี้ทักษิณ ชินวัตรกล้าชนกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ จึงต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์สำคัญคือ ทักษิณ ชินวัตร กล้าทำลายกระบวนการยุติธรรม ด้วยการขัดขืนอำนาจตุลาการที่จะตัดสินคดีความ และทำการใช้สรรพกำลังเพื่อต่อต้านคำพิพากษา ที่จะทำให้ตนเองหลุดจากอำนาจ และเมื่อมีการต่อต้านอำนาจตุลาการ ก็จะเป็นสัญญาณที่ส่งถึงกำลังรบของตนเองทั้งหมด ให้เคลื่อนไหวสั่งการเพื่อทำการปฏิวัติก่อการกบฏเข้าทำการ ควบคุม ปิดล้อม หรือ กดดัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยกลวิธีการสารพัด เพื่อตัดขาดพระองค์จากสื่อสารมวลชน จากประชาชน และสถานการณ์วิกฤตินั้นกำลังจะเกิดขึ้น!!!

การประเมินถึงความสามารถในปัจจุบันของฝ่ายกบฏ ได้ให้คำตอบแก่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัย และฝ่ายความมั่นคงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างเงียบๆ และออกมาเตือนว่า รับรู้เสมอ อย่างพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ พลเอกสนธิ บุญยรัตนกลิน พลโทสพรั่ง กัลยาณมิตร และ ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเตรียมพร้อมเสมอ ในฐานะของ "ฝ่ายตั้งรับ"

มีการสร้างกระแสข่าวเพื่อเตรียมโจมตีกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่าเป็นผู้ที่จะทำการส่งคนลอบสังหาร ทักษิณ ชินวัตร และเพื่อสร้างหลักประกันการฆ่าล้างประชาชนผู้ต่อต้านอำนาจตนเอง จึงทำการส่งจดหมายไปยังผู้สหรัฐ ดังที่ทราบกัน ทั้งหมดนำไปสู่จุดประสงค์สำคัญเพียงประการเดียวคือ ทักษิณ ชินวัตร จะทำการกล่าวหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ ถ้า ทำการปล่อยให้ทหารในพระองค์ ปล่อยให้ตุลาการ ปล่อยให้ผู้แทนพระองค์ ทำการต่อต้านอำนาจของมันที่จะเข้ายึดครองประเทศ ดังที่มีการพยายามเคลื่อนไหวผ่านบทความโจมตีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านบทความของ อ. ธรรมศาสตร์ท่านหนึ่งที่กล่าวหาพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวว่า ไม่ใช่ผู้มีสิทธิในราชสมบัติ แต่ผู้สืบทอดที่สมควรได้รับคือ ราชสกุลจักรพงษ์! และเสียงเล่าลือกันในวงการสื่อถึงคำพูดของทักษิณในสนามกอล์ฟ "จะสั่งสอนบทเรียนแบบเนปาลให้แก่คนบางคน" ตามด้วย เสียงเล่าลือกันในวงการเมืองระดับคนใกล้ชิดแกนนำพรรคไทยรักไทย ถึงคำพูดสำคัญที่ว่า "เราจะไม่ยอมให้ไอ้แก่ตาบอดควบคุมประเทศนี้อีกต่อไป"

มันคือการเตรียมพร้อมที่ไม่เหลือเวลามาถามว่าจะจริงหรือ ทำได้หรือ เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะข้อมูลสุดท้ายที่ผมจะบอกกล่าวแก่ทุกท่าน คือ สิ่งที่จะยืนยันได้ว่า ทุกสถานการณ์ที่นำไปสู่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของประชาชนชาวไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของคนที่เห็นเงินสำคักว่าชีวิตคน รัฐบาลสหรัฐ โดยประธานาธิบดี จอร์จ ดับบลิว บุชประกาศทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย หลังจากการสั่งการถล่มตึกเวิลด์เทรด และจากนั้น หน่วยงานสืบราชการลับสหรัฐ (CIA) ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการ ในความผิดฐานที่ปล่อยให้รายชื่อสายลับและข้อมูลที่ตั้งหน่วยงาน หลุดรอดเข้าสู่อินเตอร์เน็ต และหลังจากนั้น นางสาวคอนโดลิซซ่า ไรซ์ รับช่วงอำนาจจาก นายโดนัลล์ รัมสเฟลด์ ให้ทำปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายหลังการถล่ม อาฟกานิสถาน อิรัก และปากีสถาน และเพื่อจะสร้างตัวละครผู้ก่อการร้ายของโลก ได้ทำการกล่าวโทษอัลกออดะห์ ของโอซามา บิน ลาเดน และได้ทำการจัดงบประมาณปีละ 200 ล้านเหรียญ ส่งให้กับผู้นำทหารปากีสถาน เพื่อใช้ในการจัดส่งคนแทรกซึม และเข้ามาสร้างสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงทำให้ช่วงเวลาที่สถานการณ์ในสามจังหวัด ถูกจับตามอง โดย CIA และ หน่วยงานปฏิบัติการข่าวกรองไทย และออกข่าวว่า ผู้ก่อความไม่สงบคือ คนไทยที่ไปเรียนในโรงเรียนฝึกสอนการก่อการร้ายที่ประเทศปากีสถาน และในเวลานั้นเองที่ ข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐบาลไทย กับ สหรัฐเริ่มขึ้นด้วยการเปิดเผย หนังสือข้อตกลงร่วมกันกับ หน่วยงานจัดตั้งใหม่ของ CIA ที่ชื่อ CTIC และ หน่วยปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายหน่วยย่อย คือ CSIS โดยสื่อมวลชนไทย ในชื่อ เซี่ยงเส้าหลง และผู้ติดตามสถานการณ์อย่าง นต.ประสงค์ สุ่นสิริ และฝ่ายปฏิบัติการข่าวกรองทางทหาร ของกองทัพบก ได้ทำการตรวจสอบและติดตามถึงที่มาและผู้ที่เกี่ยวข้องของสถานการณ์ กับการเรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพและต่อมาท่านได้เสียชีวิตอย่างลึกลับคือ พล.ต.ท.สมควร หริกุล จนทำให้เกิดรายงานที่ยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เหมือนกับสายเกินไปเพราะทุกอย่าง ได้ดำเนินการไปจนเกือบจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

รายงานที่มีผู้กล่าวถึงในวงจำกัด แม้ในสายตาของผู้ทำงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงเอง เรื่อง "แผนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และโครงสร้างกองทัพไทย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ท่านทั้งหลายที่รับรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ของประเทศไทยเวลานี้ จงรับรู้ไว้เถิดว่า CIA คือ ผู้ที่ทำการส่งงบประมาณ 200 ล้านเหรียญตามที่แจ้งให้ทราบเบื้องต้นแก่ผู้นำทหารของประเทศปากีสถาน แต่ หลังจากนั้นไม่นานประเทศปากีสถาน ก็ถูกแทรกแซงกิจการภายในจนประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะความเสี่ยง จึงทำการปฏิเสธการปฏิบัติการสร้างผู้ก่อการร้ายในประเทศไทย ทำให้ CIA ตัดสินใจประสานงานกับรัฐบาลไทย ในเวลาที่มีการเปิดเผย ข้อตกลง CTIC และสอดคล้องกับจดหมายจาก ทักษิณ ถึง บุช ในข้อความที่ว่า “และความร่วมมือของเราทั้งสองในปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายยังคงมีอยู่ต่อไป" ทำให้ความลับที่ปิดซ่อนมานานถูกเปิดขึ้นแล้ว รัฐบาลสหรัฐทำการสนับสนุนเงิน ปีละ 200 ล้านเหรียญ เท่ากับ 8,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลไทย และรับผิดชอบในการสร้างผู้ก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอยู่ในความรับผิดชอบของ คน 2 คน ซึ่งมีอำนาจอนุมัติเงินเบิกจ่ายงบประมาณลับก้อนนี้

1. พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรักษาการรองนายกรัฐมนตรี และผู้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงของประเทศไทย ในการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบมีอำนาจ ในการสั่งการหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย โดยเฉพาะ หน่วยงานข่าวกรอง 14 หน่วย ในประเทศไทย
2. พลเอกวินัย ภัททิยกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้รับผิดชอบในปฏิบัติการทางทหารเพื่อการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบ ร่วมกับทางตำรวจและชิดชัย วรรณสถิตย์ นี่คือ ความอัปยศ ที่คนสองคนสร้างขึ้นภายใต้การเฝ้ามองตลอดเวลา และนำสถานการณ์มาใช้ประโยชน์ทางการเมือง เพื่อการออกประกาศ พรก.ฉุกเฉิน หรือ ใบอนุาตฆ่า ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้เหตุการณ์ไม่สิ้นสุด และคนที่ตายนับหมื่นศพ ตลอด 5 ปี ในทุกเหตุการณ์ไม่ว่ากรือเซะ ตากใบ หรืออุ้มฆ่า ตลอดจนที่หายสาบสูญ

การทำลาย ศอ.บต. พตท. 43 การปลด ผอ.พลากร สุวรรณรัตน์ การทำลายแนวป้องกันด้านการข่าวของพลเรือน การสลายกำลังแนวร่วมการข่าวของชาติ เพื่อเปิดทางสะดวกในทุกปฏิบัติ นี่แหละ ตัวตนของการสร้างสถานการณืความไม่สงบ เพื่อสนองรัฐบาลบุช โดย ทักษิณ และปฏิบัติการสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นและต่างปะทะกันอย่างรุนแรงที่สุด โดยที่สื่อสารมวลชนทั่วไปไม่มีทางรับรู้ จะมีก็แต่ เซี่ยงเส้าหลง และผู้เกี่ยวข้องที่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายใน ระดับผู้ใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติการของสำนักพระราชวัง และบุคคลใกล้ชิดระดับแกนนำพรรคไทยรักไทย เท่านั้นที่จะทราบได้ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เป้าหมายสำคัญสูงสุดในการลอบปลงพระชนม์โดยทุกวิธีการ และโดยเฉพาะการทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ยิ่งดี การทำลายพระเกียรติยศ การพยายามปล่อยข่าวลือในทางเสียหายของพระบรมวงศานุวงศ์ การเขียนบทความโจมตีพระราชสถานะของพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบราชสมบัติ การพยายามปิดล้อมอำนาจของทหารของพระองค์ ไม่ให้สามารถลงมือในการควบคุมตัวทักษิณ ชินวัตร การใช้ตำรวจและฝ่ายปฏิบัติงานของศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ทำการประกบติดและรายงานความเคลื่อนไหวจากพระราชฐานที่ประทับทุกแห่ง ทุกพระองค์ การสอดแนมด้วยการดักฟังโทรศัพท์ในทุกพระราชฐาน ทุกพระตำหนักลับ ทุกพระสหาย และการส่งคนติดตามบุคคล VIP ทั้งหมดอยู่ในขั้นที่สามารถรับคำสั่งเพื่อการ "ฆ่า" ได้ทันทีเมื่อเวลาเกิดการรบแตกหักด้วยการทุ่มกำลังโจมตีครั้งสุดท้าย โดยสื่อสารมวลชนที่ไม่อาจทำอะไรได้มากกว่าการปิดตาปิดหูปิดปากตนเอง และในท่ามกลางสงครามที่ทักษิณ ชินวัตรจะทำการทุ่มกำลังทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น เราไม่อาจรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร? และสำหรับประชาชนที่ไร้กำลังอาวุธ มีแต่ความจงรักภักดีคงทำได้เพียงหน้าที่ของผู้เฝ้าดูสงครามนี้ ภายใต้การปกป้องดูแลของเหล่าทหารหานอกเครื่องแบบจากกำลังรบพิเศษป่าหวาย

แกนนำพันธมิตร ท่านจะวางยุทธศาสตร์อย่างไร เพื่อนำมวลชนปกป้องพระเจ้าอยู่หัวร่วมกับทหารของพระองค์ทุกนาย ร่วมกับผู้แทนพระองค์ทุกคน ก็เตรียมตัวให้พร้อมให้ดีที่สุดเถิด

กราบเรียนทุกท่านที่ได้อ่านและรับรู้เรื่องนี้จากข้าพเจ้า ขอท่านตัดสินใจเถิดว่าท่านจะนิ่งเฉยอยู่ หรือทำประการใด เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอเปิดเผยความลับสุดท้ายของทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทำการจัดหาคนที่มีบุคลิกลักษณะคล้ายตนเองขึ้นมาจำนวน 4 คน และทำการส่งเข้ารับการผ่าตัดใบหน้าเพื่อให้คล้ายคลึงตนเอง สำหรับใช้เป็นตัวแทนในการไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างความสับสน การติดตามของฝ่ายต่างๆ เพื่อรับประกันว่า หากตัวสำรองถูกทำให้ตายไปแต่ก็ยังมีตัวจริงอยู่ และพร้อมจะสั่งการต่อไปในเรื่องต่างๆ มีการเตรียมเส้นทางหลบหนีไว้อย่างดี ทั้งทางบก เรือ อากาศ กำลังคนคุ้มกันติดอาวุธพร้อม 24 ชม.

และด้วยข้อกล่าวหาที่ประกาศก้องของคุณสนธิ “ทักษิณคือกบฏต่อราชอาณาจักร" แต่ตำรวจไม่ทำอะไร ทหารเคลื่อนกำลังชัดเจนไม่ได้ ก็ต้องถึงบทบาทของพลเรือน ของประชาชน

ขอเรียนให้ทราบว่า พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ไม่อาจทำหน้าที่ที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญใดๆ เพราะการฉีกรัฐธรรมนูญด้วยกำลังทหารก่อน ถือเป็นความผิดที่นำพาความเสื่อมเสียมาสู่กองทัพของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่เพียงแค่การเสื่อมเสียเฉพาะตัวบุคคลของท่านพลเอกสนธิ

ฉะนั้น หากจะต้องทำการฉีกรัฐธรรมนูญด้วยสิ่งสูงสุด ขอท่านแกนนำพันธมิตรและขอปวงชนชาวไทย จงทำการสร้างธงสัญญลักษณ์แห่งมติมหาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปกเกล้าฯ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 พร้อมลงนามให้กับท่านพลเอกสนธิ อย่างเป็นทางการให้ท่านทำหน้าที่ ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทันทีโดยไม่ต้องสนใจต่อการฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่า มติของมหาชน เป็นไปโดย "อำนาจของกฎหมายความมั่นคงสูงสุด" และเพื่อเป็นไปโดยความชอบธรรมนั้น ทหารจะต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากมหาชน และนำพระราชอำนาจนั้น กลับคืนสู่พระมหากษัตริย์และสลายกำลังรบกลับเข้ากรมกอง เพื่อเปิดทางให้ประธานศาลฎีกา ทำหน้าที่นำชื่อบุคคลผู้เหมาะสมนำขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทำหน้าที่ นายกรัฐมนตรี ภายใต้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือ ท่านประธานศาลฏีกา และเร่งกอบกู้หายนะของชาติบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด เพราะเรารอให้มากกว่านี้ไม่ได้อีกต่อไป

บันทึก : 5 สิงหาคม 2549
ผู้บันทึก : ธุลีพระบาท
ด้วยจิตคารวะต่อทุกท่าน ด้วยสำนึกในฐานะของประชาชนคนหนึ่งในชาติ ด้วยสำนึกต่อทุกผู้ที่เสียสละ เพื่อแผ่นดินไทยได้คงอยู่จนถึงวันนี้ขอเกิดและตายบนผืนแผ่นดินไทย

Saturday, September 30, 2006

From an internet post...

ใครคือ ต้นตอ ทรราช
ใครฉ้อฉล ประเทศชาติ เรื่องภาษี
ใครจาบจ้วง ผู้มี บารมี
ใคร(สั่ง)ทุบตี ผู้ต่อต้าน จนอานไป
ใครให้ สัญญา ในห้าปี
จะไม่มี คนจน แห่งหนไหน
ในกระเป๋า จะมีเงิน เป็นปึกใหญ่
แล้วเป็นไง กลับกลาย เป็นตั๋วจำนำ
ใครทำให้ เกิดกลุ่ม พันธมิตร
คนใกล้ชิด เคยอุ้มชู ดูน่าขำ
ใครทำมิตร เป็นศัตรู ดูมันทำ
เชื่อขันที ชี้นำ ข้างข้างกาย
ใครเคย พูดจา ตระบัดสัตย์
ยืนยันชัด ยุบสภา ชาติหน้าบ่าย
ชั่วข้ามคืน กลับลำ ทำหน้าตาย
ขอฟอกกาย ด้วยเลือกตั้ง อีกครั้งที
ใครตัวการ ทำฝน ห่าใหญ่
ตกทั่วไป ทุกถิ่น แผ่นดินนี้
ปู่เติ้งเปียก หนาวสั่น ขอชีวี
นอมินี่ อย่ารอช้า มาไวไว
ใครให้จ้าง พรรคเล็ก ลงสมัคร
ธรรมรักษ์ ซวนเซ พูดเฉไฉ
เอาแหนมเนือง มาให้ ผิดยังไง
คนตัวใหญ่ นั่นไม่ใช่ หุ่นคล้ายกัน
ใครพูดให้ เคารพ กติกา
แต่ยกเว้น ตัวข้า คนหนึ่งนั่น
คนกรุงเชื่อ คนเลว ไม่รู้ทัน
รากหญ้านั้น ฉลาดเหลือ เชื่อผู้นำ
ใครหลอกว่า จะซื้อ ลิเวอร์พูล
จะประมูล สู้ราคา มันน่าขำ
เพื่อเบี่ยงเบน ความสนใจ ไล่ผู้นำ
แท้ปั้นน้ำ เป็นตัว เวียนหัวกัน
ใครสัญญา ปราบโกง ให้สำเร็จ
ถึงใบเสร็จ ไม่มี ก็บ่ยั่น
ห้าปี ผ่านไป มีไหมนั่น
คนใกล้ชิด ร่ำรวยกัน พันทวี
ใครแปลงที่วัด ให้เป็น สนามกอล์ฟ
ไว้ออกรอบ ตีเล่น เป็นสุขขี
กฤษฎีกา ชี้ว่าผิด ทุกกรณี
อ้างข้านี้ ยิ่งใหญ่ ไม่รับฟัง
ใครซุกหุ้น กับคนใช้ คนขับรถ
แล้วพูดปด ลืมไป คล้ายความฝัน
อ้างบกพร่อง โดยสุจริต พัลวัน
ขอศาลท่าน วินิจฉัย ไม่เจตนา
ใครแทรกแซง โยกย้าย นายทหาร
ถูกต่อต้าน ชิงชัง สร้างปัญหา
ตั้งข้ามหัว อาวุโส ตลอดมา
จนกองทัพ อ่อนล้า ระอาใจ
ใครยกตน เทียบเท่า ท่านเล่าป๋า
มีปัญหา เหมือนกัน ต้องแก้ไข
แต่ยุคโน้น ขอ ปชต. ให้เต็มใบ
ยุคนี้ไซร้ จริยธรรม ผู้นำมี
ใครมี จดหมาย ฟ้องพ่อบุช
ว่าลูก(น้อง)สุด แสนทน คนพวกนี้
พวกหวยเถื่อน ยาเสพติด ตามราวี
อาฆาตที่ ฆ่าตัดตอน รานรอนมัน
ใครหนอ จัดฉาก เรื่องคาร์บ๊องซ์
เพื่อเรียกร้อง ความสงสาร ให้เหหัน
เฉินสุ่ยเปียน ใช้ได้ผล ในครั้งนั้น
ตอนนี้เขา รู้ทัน กันแล้วเอย

------------------
ผลงานใครเอ่ย

Wednesday, July 26, 2006

Dare to "touch" the SKY

Decoding Thaksin Shinawatra's June 29 2006 speech to hight-ranking government officials by Sondhi Limthongkul.

"วันนี้องค์กรนอกรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ในรัฐธรรมนูญ คือบุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ไม่ ออบเซิร์ฟ รูล ออฟ ลอว์ ของหลายฝ่าย หลายองค์กร ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองตามหน้าที่ที่ต้องทำ บางคนไม่พอใจกติกา แต่จะขอให้แก้กติกานอกระบบประชาธิปไตย นอกระบบรัฐธรรมนูญ เป็นไปไม่ได้ ผู้เสียผลประโยชน์ใช้กฎหมู่ แต่ไม่มีคนบังคับใช้กฎหมาย ในที่สุดก็กลายเป็นการสร้างความวุ่นวาย และสร้างปัญหา เรายังขาดการเคารพในระบอบประชาธิปไตย เรื่องหนึ่งเสียงต่อหนึ่งคน"

ผมไม่รู้คุณทักษิณ คุณกำลังพูดถึงใคร หรือคุณพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ใช่รึเปล่า เอาละถ้าสมมุติว่าใช่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นประธานองคมนตรี ท่านเป็นตัวแทนพระเจ้าอยู่หัวฯ คุณพูดถึงใครกันแน่ องค์กรนอกรัฐธรรมนูญ หรือคุณพูดถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พวกเราไม่มีบารมี ไอ้พวกเรามันกุ๊ยข้างถนน หมาข้างถนน จำได้ไหม คุณลืมไปแล้วหรอคุณเคยด่าพวกผมว่า ผมเนี้ยหมาข้างถนน กุ๊ยข้างถนน หรือคุณพูดถึงองคมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรนอกรัฐธรรมนูญ

"บางคนยังเข้าใจว่า ตัวเองมีความสำคัญมากกว่าคนจำนวนมาก เพราะฉะนั้น เสียงของตัวเองต้องดัง และมีความหมายมากกว่าเสียงคนอื่น ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน มีคนอยากเป็นนายกฯ มาตรา 7 ทั้งๆ ที่มีพระราชดำรัสบอกแล้วว่า มาตรา 7 นั้นไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เลยทำให้วุ่นวายกัน"

ในกรณีที่คุณทักษิณคุณลืมว่าคุณพูดอะไรในชุดที่ 2 ผมจะอ่านให้ฟัง "บางคนยังเข้าใจว่าตัวเองมีความสำคัญมากกว่าคนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเสียงของตัวเองต้องดังและมีความหมายมากกว่าเสียงคนอื่น ไม่เคารพในการตัดสินใจของประชาชน มีคนอยากเป็นนายกฯ มาตรา 7 ทั้งๆ ที่มีพระราชดำรัสบอกแล้วว่า มาตรา 7 นั้นไม่เป็นประชาธิปไตย เลยให้วุ่นวายกัน" คุณทักษิณ คุณกำลังจาบจ้วงถึงใคร แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดเรื่องประชาธิปไตยกับพวกผม ชีวิตคุณเกิดแล้วตายอีกสิบชาติ คุณยังไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นอย่างไร คุณไม่มีวันเข้าใจหรอก ประชาธิปไตยในสายตาคุณ คือ การซื้อเสียงเข้ามาแล้วรวมพรรคซื้อพรรค แล้วซื้อองค์กรอิสระ แล้วแทรกแซงการแต่งตั้งองค์กรอิสระ แล้วลงคะแนนเสียงให้คุณ แล้วคุณก็บอกว่า กูมี 19 ล้านเสียงกูจะทำอะไรก็ได้ คุณมาสอนประชาธิปไตยอะไรกับผมคุณทักษิณ สมัยนี้เขาสู้กันอยู่บนท้องถนนกับรุ่น 5 คุณยืนกุมไข่ขอสัมปทานดาวเทียมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ คุณมาพูดอะไรประชาธิปไตยกับผม คุณไม่มีสิทธิ์ คุณไม่มีสิทธิ์เลยแม้แต่นิดเดียว

"บางองค์กร หัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรของตัวเองเสีย เพื่อที่จะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย"

คุณทักษิณ คุณฟังคำพูดคุณประโยคสุดท้ายให้ดีๆ นะ คุณฟังให้ดีๆ เพราะประโยคสุดท้ายนี้จะตามหลอกหลอนคุณไปจนตลอดชีวิต คุณบอกว่า "บางองค์กร หัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรของตัวเองเสีย เพื่อที่จะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย" คุณหมายถึงใคร ถ้าคุณไม่ขี้ขลาดตาขาวพอ คุณพูดออกมาสิคุณหมายถึงใคร คุณหมายถึงศาลสถิตยุติธรรมหรือเปล่า "บางองค์กรหัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรตัวเองเสีย" คุณหมายถึงประธานศาลฎีกาหรือเปล่า เพราะผมจำได้ว่าวันที่ศาลรับสนองพระราชดำรัสเข้ามาแก้วิกฤติของชาติ ลิ่วล้อของพวกคุณนี่ออกมาด่าศาลกันเป็นแถวเลย ใช่ ไม่ใช่ นายโสภณ เพชรสว่าง ถึงกับหมิ่นศาลปกครอง ใช่ ไม่ใช่ นี่คุณพูดถึงศาลสถิตยุติธรรมหรือเปล่า คุณแน่ใจคุณบอกมาสินายทักษิณ เห็นหรือยังพ่อแม่พี่น้อง ฟังให้ดีๆ "บางองค์กร หัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรของตัวเองเสีย เพื่อจะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย" คุณกำลังหมายถึงใครที่ร้องขอ คุณหมายถึงใคร ผมไม่รู้คุณหมายถึงใคร แต่ผมจำได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกมาขอให้ศาลแก้วิกฤติ

"บางองค์กรหัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรของตัวเองเสีย เสีย เพื่อจะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย" คุณทักษิณคุณอย่านึกว่าคนไม่รู้ทันคุณนะ ในอดีตคุณจาบจ้วงมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งผมจะบอกให้คุณรู้ มีเอกสารสำคัญอยู่ที่อัยการชุดที่แล้ว ยุคที่แล้วไม่ใช่ยุคนี้ เอกสารนั้นคือสัญญาตรวจสอบการซื้อเครื่องบินราชพาหนะ เอกสารที่ส่งไปนั้นส่งไปว่า ให้ตรวจสอบสัญญาการซื้อเครื่องบินราชพาหนะ ที่เอาเฮลิคอปเตอร์พูมาร์ 2 ตัว เอาไปแลก แต่ออกมาทำไมเสือกกลายเป็นเครื่องบินไทยคู่ฟ้า เอกสารเขียนชัดว่าให้อัยการตรวจสอบสัญญาซื้อเครื่องบินราชพาหนะ แต่พอออกมากลายเป็นเครื่องบินไทยคู่ฟ้าของคุณ ผมจะบอกอะไรคุณอย่างคุณทักษิณ คุณเอามือปิดฟ้าไม่ได้หรอก

คุณทักษิณคุณรู้เอาไว้ด้วย ถ้าคุณยังจำได้ วันที่ 25 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกมา มีพระราชดำรัสตรัสกับประธานศาลทั้งหลาย ให้เข้ามาช่วยแก้วิกฤติแห่งชาติ นั่นคือที่มาของการที่ประธานศาลต่างๆ ออกมาร่วมมือกันแก้วิกฤติแห่งชาติ "บางองค์กร หัวหน้าองค์กรถึงขนาดยอมทำให้ระบบขององค์กรตัวเองเสีย" นี่คุณหมายถึงศาลหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ คุณรู้ตัวเอง "เพื่อที่จะทำตามนโยบายผู้ที่ร้องขอบางราย" คุณหมายถึงพ่อหลวงของผมหรือเปล่า คุณพูดถึงคนที่มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญ ผมไม่รู้ว่าใคร แต่ผมจะยกมือบอกว่า "พระบารมีมากล้นรำพัน" คุณหมายถึงใคร คุณหมายถึงใคร

"ผมจะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยเด็ดขาด ผมจะขอโพรเทกต์ (ปกป้อง) ประชาธิปไตยของชาติ เพราะผมถือว่าโลกยุคใหม่เขาให้คุณค่าคำว่า ประชาธิปไตยสูงมาก เราเป็นประชาธิปไตยมาขนาดนี้แล้ว ใครก็แล้วแต่จะนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลอง โดยทิ้งประชาธิปไตยผมไม่ยอม ขอย้ำอีกครั้งว่า ผมจะปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต"

คุณทักษิณ คุณไม่ควรพูดเรื่องนี้ออกมา เพราะฝันคุณอาจจะเป็นจริง คุณพูดบอกว่า "เราเป็นประชาธิปไตยมาขนาดนี้แล้ว ใครก็แล้วแต่จะนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลองโดยทิ้งประชาธิปไตย ผมไม่ยอม ขอย้ำอีกครั้ง ผมจะปกป้องประชาธิปไตยด้วยชีวิต" ขอให้สมพรปากเถอะ ขอให้สมพรปาก

คุณทักษิณ ประชาธิปไตยแบบคุณเนี่ยนะ ประชาธิปไตยแบบคุณนี่นะ ถ้าต้องทนอยู่นะ สู้อยู่ในประเทศที่อีดี้ อามิน เป็นประธานาธิบดี ยังจะดีเสียกว่า คุณเนี่ยใส่หน้ากากประชาธิปไตย แต่เบื้องหลังหน้ากากคุณเนี่ย เผด็จการสุดๆ เผด็จการสุดๆ ระบอบทักษิณไม่ใช่เป็นประชาธิปไตย เป็นเผด็จการในคราบประชาธิปไตย เต็มไปด้วยคอร์รัปชั่น ปิดกั้น แทรกแซงสื่อ แทรกแซงองค์กรอิสระ ระบบตรวจสอบพิกลพิการ ไร้ศีลธรรมจรรยา แล้วยังละเมิดพระเจ้าอยู่หัวอีกต่างหาก

ไอ้ระบอบที่ผมพูดเมื่อกี้นี้ ถ้าคุณอยากปกป้องด้วยชีวิต ผมขอดลบันดาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เป็นจริงเถิด

"สำหรับคนเลว กติกามีไว้ให้เลี่ยง สำหรับคนดีกติกามีไว้ให้ปฏิบัติ แต่เมื่อไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย คนพาลได้ดี คนดีเสียหาย"

คำพูดคุณตรงนี้ "สำหรับคนเลวกติกามีไว้ให้เลี่ยง สำหรับคนดีกติกามีไว้ให้ปฏิบัติ แต่เมื่อไม่มีการบังคับใช้กฎหมายคนพาลได้ดีคนดีเสียหาย" แหมผมเห็นด้วยกับคุณจริงๆ ตั้งแต่คุณพูดมาตรงนี้ถูกใจผมที่สุด ถูกใจตรงไหนรู้ไหม เหมือนกรณีคุณขายหุ้นชินคอร์ปนั่นหละแล้วคุณก็เลี่ยงภาษี เหมือนกรณีคุณเลือกตั้งแล้วคุณจ้างพรรคเล็กมาลง แหมผมเห็นด้วยจริงๆ เหมือนกรณีคุณกระจายหุ้น ปตท. แล้วญาตินักการเมืองได้แล้วบอกว่าเป็นกลไกการตลาด เหมือนมีความพยายามแปรรูป กฟผ.โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน เหมือนกรณีไอทีวี ที่รีบส่งรัฐมนตรีเข้าไปช่วยเหลืออย่างหน้าด้าน เหมือนกรณีใช้นโยบายลดค่าสัมปทาน ขยายสัมปทานธุรกิจของครอบครัว เหมือนกรณีไปเที่ยวอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ในช่วงรักษาการ ที่ไร้มารยาท แล้วมาเลี่ยงบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย แหมไอ้คนพวกนี้มันเลวจริงๆ เหมือนที่คุณพูด โคตรจะเลวเลย คุณทักษิณ คุณรู้ไหมว่ามันเลวขนาดนี้มันเป็นใครบอกผมหน่อยได้ไหม คุณทักษิณ

My favorite poem by everyone's favorite poet, Mr. "VATAN":

เป็นปลาหมอ ตายเพราะปาก ยากแก้ไข
เหลี่ยมจังไร ไพร่สถุล สกุลต่ำ
ปากแม่.เสีย ปากแม่.เฮี่ย ปากระยัม
แต่ละคำ มันพ่นมา ฆ่าตัวตาย

ชอบจาบจ้วง เป็นอาจิณ จนชินแล้ว
ไอ้สัตว์แม้ว แม่.แสนชั่ว เตรียมหัวหาย
เป็นสันดาน พาลติดตัว ไปจนตาย
คงฉิบหาย ตายเพราะปาก ยากเยียวยา

30 มิถุนายน 2549
VATAN

Tuesday, March 07, 2006

The Questions the Tyrant refuses to answer

(The 40 questions--that the anti-Thaksin movements have asked the evil PM but have received no answers--are being translated and will be posted here shortly. All the information was received via Internet posts)

40 คำถามที่ไร้คำตอบ เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร
ปี 2548 รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรได้จัดมา 13 ครั้งก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมๆ กับสโลแกนหลัก –
“ความจริงที่รัฐบาลไม่อยากฟัง คำถามที่รัฐบาลไม่อยากตอบ แต่ประชาชนมีสิทธิที่ระรับรู้”
บางคนได้เคยชมทุกตอนและอาจจะจำไม่ได้ทั้งหมดว่า นายสนธิได้เคยถามอะไรเอาไว้บ้าง ปรากฎว่าหากสรุปเนื้อหาคำถาม ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรแล้ว หลายท่านอาจนึกไม่ถึงว่ามีทั้งหมดถึง 40 คำถามด้วยกัน โดยมีเนื้อหาที่สำคัญดังนี้

1. แต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ -- ในเมื่อทรงมีพระอาการดีขึ้น แล้วเหตุใดจึงไม่มียกเลิกตำแหน่งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช?

2. กรณีผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ที่ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าแต่งตั้ง แล้วทรราชกล่าวหาว่า เลือกมาไม่ถูกต้อง ไม่ยอมรับ แล้วสรรหาใหม่ เอง ซึ่งขัดต่อพระราชโองการแต่งตั้ง เป็นเวลาปีกว่า โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากในหลวง ผ่านสำนักราชเลขาฯ และองคมนตรี

3. การคอร์รัปชั่น -- เกิดขึ้นมากมายในประเทศ เช่น เรื่องกล้ายาง, ซีทีเอ็กซ์, สนามบินสุวรรณภูมิ ทุกธุรกิจและการก่อสร้างทั้งสนามบิน ฯลฯ

4. การทำบุญประเทศ – ใส่เสื้อแขนสั้น นั่งในตำแหน่งที่ประทับ ของ กษัตริย์ ปฏิบัติในระหว่างพิธีเหมือนกษัตริย์ โดยในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีแม้แต่องคมนตรีที่เป็นผู้แทนของพระมหากษัตริย์ ที่จะปฏิบัติเยี่ยงนี้

5. แปรรูป กฟผ. เอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่ออะไร? และเพื่อใครทั้งๆ ที่ กฟผ.ระดมแหล่งเงินกู้เองได้ หรือขายกำไรส่วนเกินในอนาคตได้โดยไม่ต้องขายหุ้น? และทำไมจึงตระบัดสัตย์ต่อการลงนามอนุมัติหลักการของนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรเองที่รับปากว่า จะไม่ขายหุ้นสาธารณูปโภคเข้าตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันศาลปกครองระงับการกระจายหุ้นชั่วคราว ส่วนรัฐบาลก็จะดันทุรังที่จะแปรรูปการประปานครหลวงให้ได้ในปี 2549 นี้

6. บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) เช่าเขื่อนซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติเพียงประมาณปีละ 300 ล้านบาท แต่ กฟผ. กลับนำไปผลิตไฟฟ้าสร้างรายได้จากไฟฟ้าพลังงานน้ำถึง 32,000 ล้านบาท คิดเป็น 100เท่าตัวของค่าเช่าเขื่อน เป็นการปล้นทรัพย์สินของแผ่นดินอย่างหน้าด้านๆ แล้วทำไมว่าจะขายหุ้นราคาต่ำกว่าราคาเป็นจริงถึง 10 เท่าตัว?

7. ทำไมรัฐบาลไม่ควบคุมราคาก๊าซธรรมชาติที่ ปตท. ขายให้กับ กฟผ.เพื่อผลิตไฟฟ้า ในราคาที่สูงกว่าราคาก๊าซที่ขายให้กับบริษัทในเครือ?

8. ทำไมรัฐบาลต้องอิงราคาค่าการกลั่นน้ำมันไปที่สิงคโปร์ ทั้งๆ ที่ราคาค่าการกลั่นน้ำมัน ได้ถูกเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอีกกว่า 5 บาท ราคาสูงเอากำไรจนมากเกินไป เพื่อใคร ที่ขโมยซื้อหุ้นเพิ่ม จน ปตท (รัฐ)เหลือหุ้นอยู่แค่ 59% แทนที่จะเป็น 75%

9. ทำไมนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ กับคำพูดที่ใช้น้ำลายให้กลายเป็นน้ำมัน คำว่า “โจรกระจอก” และวิธีการผิดพลาดจนทำให้สถานการณ์ไฟใต้ ลุกเป็นไฟเหมือนกับทุกวันนี้?

10. ถามว่านายสมชาย นีละไพจิตร หายไปไหน ความคืบหน้าเป็นอย่างไร?

11. นาวิกโยธินเสียชีวิตที่บ้านตันหยงลิมอ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปงานศพ แต่นายกฯ ไม่ยอมลงใต้ กลับมาเป็นประธานทดสอบสนามบินสุวรรณภูมิที่ยังไม่แล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรีเป็นใบ้

12. สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จประทับอยู่ที่ภาคใต้ เกิดเหตุความไม่สงบ แต่ทำไมนายกฯทักษิณ ชินวัตรจึงได้ไม่ลงไป แต่กลับไปหาเสียงการเลือกตั้งซ่อม ทั้งที่มี ส.ส.เกือบเต็มสภาอยู่แล้ว

13. กองทุนหมู่บ้าน – กลายเป็นกองทุนที่ประชาชนไปกู้เงินนอกระบบมาคืนหนี้กองทุน นำเงินกองทุนไปคืนหนี้นอกระบบ และไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เกิดเป็นหนี้สินพอกพูนมากกว่าเดิมเป็นวงจรอุบาทว์ รัฐบาลเงียบ

14. ทำไมรัฐบาลจึงจัดลำดับความสำคัญเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน หรือเครื่องบินไทยคู่ฟ้า มาก่อนเครื่องบินพระราชพาหนะ ที่มีอายุการใช้งานมานาน จนควรจะปลกระวางได้แล้ว แต่ทรราชกล่าวหาว่านายสนธิดึงเบื้องสูงลงมา

15. ทำไมรัฐบาลจึงคุกคาม ข่มขู่ กลั่นแกล้ง และรังแกสื่อสารมวลชน เพื่อปิดกั้นประชาชนไม่ให้รับฟังข้อมูลข่าวสาร
ตามเจตนารมณ์ของรัฐ ธรรมนูญรัฐบาลก็ไม่สนใจ และยังคงกลั่นแกล้งหาทางคุกคามต่อไปทั้งทางตรงและทางอ้อม ขนม็อบมาจากต่างจังหวัดหลายคันรถ และพกอาวุธมาก่อกวนที่สวนลุมพินีครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ให้ชินคอร์ปถอนฟ้องสุภิญญา กลางณรงค์, ไทยโพสต์, แนวหน้า และ ฯลฯ อีกทั้งตัวนายกฯ เองก็ยังไม่ถอนฟ้อง น.ต ประสงค์ สุ่นศิริ

16. ทำไมนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรจึงลุแก่อำนาจ ถึงขนาดประกาศข่มขู่ประชาชนว่า พื้นที่ใดเลือกพรรคไทยรักไทยทั้งจังหวัด จะได้รับการดูแลก่อนที่อื่น? ตอนแรกๆ หาว่าคนฟังหูหาเรื่อง ต่อมามีพฤติกรรมไปเยือนอุทกภัยทางภาคใต้ล่าช้า และยังงดกิจกรรมรับการบริจาคช่วยเหลือจากประชาชน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ได้รับความทุกข์จากอุทกภัยอย่างแสนสาหัส แถมยังได้ใช้เวลาอยู่กรุงเทพส่ง ส.ส.ลงพื้นที่หาเสียง ประกาศเอานาฬิกาส่วนตัว ปาเต๊ะฟิลลิป
เป็นของจับฉลากสำหรับ ส.ส. และยังใช้เวลาไปสุโขทัยกินอาหารแพงๆ และอนุมัติงบประมาณกันยกใหญ่

17. ทำไมเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จึงกลายมาเป็น No-Cost Airline ใช้สำหรับงานวันเกิดของคนในครอบครัวตระกูลชินวัตร? รัฐบาลก็บอกว่าเป็นเที่ยวบินเมล์ ปกติใครๆ ก็ขึ้นได้ ผลปรากฏว่าจริงๆ แล้วเป็นเที่ยวบินพิเศษไม่ใช่เครื่องบินเมล์แต่อย่างใดผิดระเบียบการใช้ ไม่ยอมคิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับน้องสาวของนายกรัฐมนตรีอีกเสียด้วย

18. นายสนธิได้ทำหนังสือถามไปยังรัฐบาลแล้วว่า ตั้งแต่เรามีเครื่องบินไทยคู่ฟ้ามา มีบินไปแล้วกี่ครั้ง มีใครเป็นผู้โดยสารบ้างไปที่ไหน? รัฐบาลก็บ่ายเบี่ยงยังไม่ยอมตอบคำถาม มีแต่นายสุรนันท์ เวชชาชีวะมารับเอกสาร แล้วบอกว่ายินดีเปิดเผยข้อมูลอยู่แล้วแล้วรัฐบาลก็ไม่เคยให้เอกสารอยู่ดี!!

19. นายสนธิได้ทำหนังสือถามไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ตั้งแต่เอาหวยใต้ดินขึ้นมาบนดินนั้น ทุกๆงวดรัฐบาลบอกกำไรทุกงวด กำไรตรงนั้นจัดสรรกันอย่างไร ใครได้ไปบ้างและขอรายงานมติที่ประชุมของคณะกรรมการ?
เงียบและยังไม่ยอมให้รายงานมติที่ประชุม และอ้างว่าเป็นเรื่องภายในขององค์กร

20. นายสนธิได้ทำหนังสือถามไปยังว่าเงิน 780 ล้านบาท ที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า การรับเงินบริจาค สึนามิไป 780 ล้านบาท วันนี้เหลืออีกเท่าไร ใช้ในกิจกรรมอะไรบ้าง?เงียบและยังไม่ยอมให้เอกสาร

21. นายสนธิได้ทำหนังสือถามไปว่า อัยการของประเทศไทยได้ทำจดหมาย ไปยังอัยการประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขอข้อมูลอย่างเป็นทางการในเรื่องผู้เกี่ยวข้องกับเครื่องเอ๊กซเรย์ CTX ทราบมาว่าอัยการสหรัฐอเมริกาตอบกลับมาแล้ว
มีคนเกี่ยวข้องอยู่ 8 คน และก็ยังเก็บเงียบไม่มีคำตอบอยู่ดีว่า 8 คนนั้นเป็นใคร?

22. นายเหยียนปิน และนายหน้าค้าชินคอร์ป ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีประเทศไทยประจำประเทศจีน ได้สัญชาติไทยมาได้อย่างไร? ปลอมสัญชาติ หรือแปลงสัญชาติไม่มีใครตรวจสอบไม่ใช่ประเด็นว่าได้มาในยุคไหน ประเด็นคือถูกหรือผิด

23. ทำไมงานกงสุลไทยของสถานทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงย้ายมาอยู่ที่ที่อุดอู้ในตึกกระทิงแดงของนายเหยียน ปิน? ไม่มีใครหาคำตอบจริงๆ ได้

24. มีคนในรัฐบาลไปพูดกับผู้นำประเทศจีนเพื่อไม่ให้มาลงทุนซื้อหุ้น TPI ในราคา 13.50 บาท แล้วให้ ปตท. มายึดและซื้อหุ้นในราคาถูกๆ 3.30 บาท ผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้ถือหุ้นภายนอก 49% คือใคร จริงหรือไม่? ไม่มีคำตอบ

25. นายสนธิได้ตั้งข้อสังเกตว่า ชินคอร์ปเตรียมตัวขายหุ้นกันยกใหญ่ และน่าสังเกตว่าอาจะเป็นการใช้วิธีการขอซุนวู “หนีคือยอดกลยุทธ์” หรือไม่? แรกๆ ก็ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่ได้ขายตอนนี้ เดี๋ยวนี้ยอมเรียบร้อยแล้วว่าจะขายหุ้นชินคอร์ปจริงๆ และหลบเลี่ยงภาษี อันที่รัฐควรจะได้

26. นายสนธิได้ตั้งคำถามว่า ธุรกิจนายกรัฐมนตรีได้ประโยชน์อย่างมากมายจากนโยบายของรัฐหรือไม่
ทั้งการลดภาษีธุรกิจดาวเทียม การให้ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของไทยปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า เพื่อให้ชินแซทเทอร์ไลท์ได้สัมปทานดาวเทียม การลดค่าสัมปทานไอทีวี การหลบเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มของบัตรเติมเงิน เอไอเอส การจัดการทำให้การบินไทยอ่อนแอลงเอาธุรกิจแอร์เอเชียเข้ามแข่งขัน ฯลฯ การทำในลักษณะดังกล่าวเป็นขาดขาดจริยธรรม และเข้าข่ายใช้อำนาจของรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือไม่? หากนายกรัฐมนตรีสำนึกว่าจะขายหุ้น เพื่อไม่ให้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่พึ่งจะนึกขึ้นได้ในปี 2549 ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ จะต้องคืนลาภมิควรได้เหล่านี้ให้กับแผ่นดินให้หมด!!เรื่องนี้ก็ไม่มีคำตอบอีกเช่นกัน

27. โรงงานยาสูบที่เชียงใหม่ 18,000 ล้านบาท ทำไมจึงใช้ CYC ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ เทคโนโลยีล้าหลัง และมีบริษัทที่ปรึกษาบอกว่าแพงกว่าในต่างประเทศถึง 6,000 ล้านบาท? ขณะนี้ล่วงเลยตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาแล้ว ก็ไม่มีการปรับ แต่ยังต่ออายุให้อีก

28. นายสนธิถามการเปลี่ยนแปลงตัวแทนจำหน่ายเครื่องบินรัสเซีย SU30MK เพื่อที่รัฐบาลจะได้ไปซื้อ โดยที่มีหลักฐานการอ้างอิงว่า เป็นเพราะความสัมพันธ์กับอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศและรัฐบาล และจะทำให้รัฐบาลซื้อเครื่องบินจากรัสเซีย จริงหรือไม่? และมีส่วนต่างค่านายหน้าไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาทจริงหรือไม่?พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ยอมรับว่ามีการเจรจากันจริง และจะแลกกับสินค้าทางการเกษตร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับว่ามีการเจรจากันจริงและจะแลกกับไก่สดแช่แข็ง มีข่าวอีกว่ามีหลักฐานการเตรียมการในสมัย ผบ.ทอ. พล.อ.อ. คงศักดิ์ วันทนา ออกคำสั่งลับและด่วนมากให้กรมช่างอากาศซี่งไม่ควรจะมาเกี่ยวข้องกับเครื่องบิน จัดซื้อเครื่องบินโดยวิธีพิเศษจากรัสเซีย อาจเป็นการเข้าข่ายความผิดสำเร็จ ทั้งขั้นตอน ทั้งระเบียบว่าด้วยการพัสดุ และพระราชบัญญัติการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เรื่องนี้ก็ยังตะแบงกันต่อไป ไม่ตอบให้ตรงคำถามอีกเช่นเคย

29. ทำไมการซื้อเครื่องบินรัสเซีย SU30MK 12 ลำ จึงได้ตั้งงบประมาณเอาไว้ถึง 35,000 ล้านบาท ในขณะที่หนังสือพิมพ์มอสโคว ไทมส์ ได้ระบุว่าขายเครื่องบินได้ 20,000 ล้านบาท เงินส่วนต่าง 15,000 ล้านบาทนั้น เข้ากระเป๋าใคร? ก็เงียบกันไปหมด

30. นายสนธิได้ถามนาย ภูมิธรรม เวชชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมว่า ทำไมการแปรรูป บริษัท ไทยเดินทะเล หุ้นจึงถูกครอบงำและตกอยู่มือของเพื่อนรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีญาติของรัฐมนตรี เต็มไปหมด และยังจะไปเพิ่มสิทธิประโยชนเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ของพวกพ้องมากขึ้นไปอีก?

31. นายสนธิได้ถามไปด้วยว่า คุณภูมิธรรมรู้จักเว็บไซต์ มนุษยดอทคอม ที่อาจเอื้อมกล่าวโจมตีทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่? และรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทำ? นายภูมิธรรม บอกว่าไม่รู้จัก และไม่เกี่ยว แต่รัฐบาลชุดนี้แปลก นอกจากจะปิดเว๊บไซต์นี้ล่าช้าแล้ว ป่านนี้ยังไม่เห็นความกระตือรือล้นที่จะลากตัวคนทำเว็บไซต์ออกมาจัดการเสียที แต่พยายามที่จะปิด เว็บไซต์ และวิทยุชุมชน เคเบิ้ลทีวี ที่ถ่ายทอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร

32. ร้านอาหารผาลาดตะวันรอน ซึ่งทำอาหารสัตว์ป่า ตั้งอยู่ในสวนสัตว์เชียงใหม่บนทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำไมจึงปล่อยให้เช่าถึง30 ปี โดยคนที่ได้ไปเป็นเพื่อนของนายภูมิธรรม เวชยชัย? ล่าสุดเจ้าของร้านออกมาสารภาพแล้วว่าเป็นเพื่อนของนายภูมิธรรมจริงๆ

33. ทำไมรัฐบาลไม่ดำเนินการตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 เพียงคล้อยหลังมาเพียงแค่ 10 วัน กลับดันทุรังเรียกคนต่างชาติ มาดำเนินการเสนอเงื่อนไขรถไฟฟ้ามหาสนุกแบบไร้รูปแบบ ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีอาการถังแตกแล้ว แต่ที กทม. เขาต่อจะส่วนขยายรถไฟฟ้า BTS ไปฝั่งธนบุรีนิดเดียว รัฐบาลกลับแสดงอาการขี้อิจฉา ทำตัวขวางโครงการอย่างไม่เข้าท่า หนำซ้ำยังมาจัดรายการ เรียลลิตี้โชว์ ที่ อ.อาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด สร้างภาพแจกเงินให้กับประชาชนประชาสัมพันธ์สร้างกระแส ประชานิยม ในขณะเดียวกันได้เห็นสันดานของคนมีอำนาจสติวิปลาส รวมทั้ง สุดารัตน์ เกยุรพันธ์ ที่เมื่อได้ยินข่าวนายทหารอากาศเสียชีวิต เพราะเครื่องบินตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี กลับแซวและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเหมือนคนบ้า คำถามนี้ก็ยังคงไร้คำตอบ และยังคงกะล่อนหลอกไปวันๆ ต่อไป

34. ทำไมจึงมีโครงการการก่อสร้างทางลอดอุโมงค์ และโครงการก่อสร้างถนนที่เกินความจำเป็น เกิดขึ้นมากมายในจังหวัดเชียงใหม่ แถมบริษัทพ่อตาของนักการเมืองปากห้อย กลับได้เป็นผู้ชนะการประมูลในราคาเกือบเท่าราคากลางอย่างน่าเกลียด ทำให้น่าสงสัยว่ามีการฮั้วกันหรือไม่? ปีใหม่ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฟิตจัดไปรื้อโครงการที่กำลังอยู่
ระหว่างการประมูล อีอ๊อกชั่น เพราะอ้างว่าใกล้ราคากลางเกินไป แต่ไม่เห็นพูดถึงโครงการที่เชียงใหม่แม้แต่น้อยเลย
ไม่เรียกว่าลูบหน้าปะจมูกแล้ว จะให้เรียกว่าอะไร?

35. ครูเขาคัดการการถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเกรงกลัวอิทธิพลการเมืองท้องถิ่นที่เป็นมาเฟีย หรือเข้ามาด้วยการซื้อเสียงบังคับสถานศึกษาให้สมัครใจโอนย้าย และนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์จากการศึกษา ทั้งในด้านการเมืองและธุรกิจอย่างไม่มีหิริโอตตัปะ ทำไมไม่ฟังและแก้ไขปัญหาให้เขาบ้าง? รัฐบาลก็ยังคงดื้อด้านไม่ฟังต่อไป

36. นาย ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในปี2540 ได้คาบข่าวข้อมูลทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือข่าวการลอยตัวค่าเงินบาทให้กลุ่มชินวัตรหรือไม่? เพราะกลุ่มชินวัตรได้คุ้มครองความเสี่ยง ในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลานั้นอย่างชัดเจน และประเด็นนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณสนธิได้อาศัย พรบ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการ ไปขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ส่วนจะได้หรือไม่ ติดตามกันต่อไปปี 2549 นี้ ขณะนี้ทุกอย่างก็ยังเงียบ

37. นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในปี 2540 ประกาศลอยค่าเงินบาทล่าช้า ทำให้มีเอกชนบางกลุ่มไปทำสัญญา สวอป อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 30 มิถุนายน 2540 ถึง 3,400 ล้านบาท แบงก์ชาติต้องขาดทุนจากเหตุการณ์เฉพาะวันนั้นเกือบ 50,000 ล้านบาท นาย ทนง ต้องรับผิดชอบนายทนง ก็ไม่ตอบอีก

38. ปี 2540 หลังประกาศลอยค่าเงินบาท มีเอกชนบางรายตุนซื้อเงินดอลลาร์เอาไว้เยอะ เงินบาทร่วงจาก 25 บาทต่อดอลลาร์ มาเป็น 28 บาทต่อดอลลาร์ แล้วยังกำไรไม่พอ นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงสั่งปิดสถาบันการเงินทั้ง 58 แห่งเป็นการชั่วคราว โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเจ้าหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องระหว่างเอกชน เป็นผลทำให้เงินไหลออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าร่วงลงไปจาก 28 บาทเป็น 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีเอกชนบางกลุ่มได้กำไรไป ใครได้ประโยชน์จากตรงนี้ไป นายทนงก็ไม่ยอมตอบอีก แต่นายทนงอ้างว่าตัวเองนั้นมีจิตบริสุทธิ์

39. นายสนธิได้ถามถึง จิตบริสุทธิ์ของนายทนง พิทยะ ว่าจริงหรือไม่ที่นายทนง ในสมัยเป็นเป็นกรรมการผู้จัดการทหารไทย ได้ปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้ไปกู้เพื่อไปพยุงซื้อหุ้นทหารไทย เจ๊งทั้งผู้ปล่อยกู้และผู้กู้ เป็นการปล่อยสินเชื่อผิดประเภท มีใครสอบนายทนงแล้วหรือยัง? และในสมัยที่นายทนง พิทยะ เป็นประธานการบินไทย เป็นประธานเพื่อจัดซื้อ เครื่องบินแอร์บัสเอ 340 500 600 เป็นฝูงเลย 6 ลำ 8 ลำ นอกจากซื้อเครื่องบินแล้ว การบินไทยยังต้องใช้งบประมาณ ในการเปลี่ยนเก้าอี้เครื่องบินลำเก่าๆ ซึ่งมันถึงเวลาต้องคนที่ชนะการประมูลในที่สุดนี่ ชื่อบริษัท บีเออี (British AeroSpace Engineering) นายทนงไปลอนดอนกับเมียไปเที่ยวและไปช็อปปิ้งที่มิลาน บีเออี เขาจัดเจ๊ทส่วนตัวให้คุณบินจากลอนดอนไปมิลาน จริงหรือไม่? และการทำอย่างนี้จิตบริสุทธิ์หรือไม่?
ไม่มีคำตอบอีกเช่นกัน

40. ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ประชาชนจะต้องถวายคืนพระราชอำนาจ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มิให้เกิดการผูกขาดอำนาจที่ไร้คุณธรรมอีกต่อไป? แกนนำพรรคไทยรักไทยประกาศชัดเจนว่า จะไม่เป็นตัวตั้งตัวตีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่แยแส และไม่สนใจหนำซ้ำกล่าวหาคนที่สวนลุมว่า มาเห่าหอน เป็นบ้า และคุยว่าหากนายกทักษิณ ไม่จงรักภักดีแล้ว ผีที่ไหนจะจงรักภักดีวะ, อีกทั้งกล่าวว่า ไม่มีใครให้นายกออกได้ ยกเว้นในหลวง ขอให้มากระซิบ ว่านายกออกเถอะฯ อย่างนี้ควรหรือที่จะพูด

นี่คือ 40 คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ จากการจัดเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรมา 13 ครั้ง ในปี 2548 และเป็นการกระทำของทรราชที่ลบหลู่เบื่องสูงอย่างเห็นได้ชัด


*****

Another compilation

1. สี่ปีแรกเอาเงินคลังมาแจกแถมสร้างภาพ สี่ปีหลังยึดสมบัติต้นทุนของชาติเข้าตลาดหุ้น แปรรูปมาเป็นสมบัติของพรรคพวกตนที่ถือหุ้น

2. ประชานิยม แจกแถมไม่มีงานยั่งยืน จนเงินหมดคงคลังแล้ว มีแต่ตัวเลขลวงชาวบ้านไปวันๆ เบี้ยวแม้เงินเสี่ยงภัยของครู 3 จ.ใต้อย่างน่าอดสู

3. ห้ามประชาชนและสภาคิดอ่านคิดร่วมงานบริหารประเทศ “คิดเองแทนให้ทุกเรื่อง” เพราะเห็นตนเองฉลาดอยู่คนเดียว นอกนี้โง่หมด

4. เมียหัวหน้าพรรค"จ่ายให้หมด"แก่ผู้สมัครทุกคน เมื่อได้เข้าสภาให้ "ห้ามพูด ห้ามติติง ยกมือให้" อย่างเดียว คนในตระกูลเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง หาใช่พรรคมหาชนแม้แต่น้อย ส.ส.-ส.ว.-ครม. ในคอก คือลูกจ้างทำตามนายสั่งอย่างเดียว ถูกครอบงำสิ้น กินทั้งเงินเดือนสภาและเงินเดือนหัวหน้าพรรค เป็นชุดบริหารและเป็นสภาอัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์สภาไทย จึงมีกระแสให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญใหม่รอบสอง

5. ผู้นำที่เป็นนักลงทุนข้ามชาติ ย่อมไม่มีความเป็นชาตินิยมได้ เพราะต้องร่วมสมผลประโยชน์ทำธุรกิจกับต่างชาติ เอาผลประโยชน์แผ่นดินมาแลกกับผลประโยชน์ธุรกิจตน

6. คนผีๆ ทรยศได้กับทุกคนที่เคยเป็นกัลยาณมิตร ปัจจุบันเลี้ยงสมุนด้วยเงินแต่ไม่มีใครจริงใจด้วยสักคน ต่างรู้ไร้จริยธรรม คนดีๆ เมธี ปัญญาชน ล้วนขับไล่ไสส่งให้ออกไป

7. สร้างภาพไม่ให้ขายบุหรี่เปิดเผย แต่อนุมัติเงิน 18,000 ล้านบาทสร้างโรงงานยาสูบสุดแพงที่เชียงใหม่ นายหน้าที่ดินเครื่องจักรเป็นใคร?

8. วงศาคณาญาติพวกพ้องยิ่งมั่งคั่ง แต่เงินคลังประเทศถังแตก ต้องกู้เป็นแสนๆ ล้านจะตามมาอีกหลายงวด ล่าสุดกู้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ทั้งๆ ที่เงินกู้ออมสินถึงวาระยังไม่มีจ่ายต้องผลัดส่งเลย

9. ครอบงำและทำลายองค์กรอิสระจนเป็นง่อยเปลี้ย ขาดความสมดุลการตรวจสอบ

10. ครอบงำทีวี ทั้ง 6 ช่อง บงการเป็นกระบอกเสียงของตน เสนอข่าวด้านเดียว คุกคามสื่อทุกรูปแบบ ใครพูดเรื่องคอร์รัปชั่นโดนปลดรายการ จ้างชมพู่ปากหมาู่และหน้าจืดที่รับใช้เผด็จการทรราชมาทุกยุคทุกสมัย เหมือนสถานีทีวีเป็นสมบัติส่วนตัวของพวกโกงกันทั้งโคตรหรือไง มันคิดว่าทรัพย์สาธารณะ สภา ทำเนียบของประชาชนเป็นสมบัติของบริษัทมันทั้งสิ้น

11. แปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทรัพย์สินมีมูลค่าซ่อนเร้นนับล้านๆบาท จะทำกำไรมหาศาลแก่ผู้ถือหุ้น ได้ของแถมสายนำสัญญาณใยแก้ว 24 เส้นแบนด์วิดธ์สูงบนสายไฟแรงสูงมูลค่าแสนล้านฟรีๆ เป็นการเอาสมบัติต้นทุนของแผ่นดิน มาแปรรูปเป็นสมบัตินายทุนหุ้น กำไรที่เคยเข้าคลัง กลายเป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่แทนทันที และแก้กฎหมายให้ต่างชาติมาถือหุ้นได้มากขึ้น

12. พยายามปลดคุณหญิงตงฉิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้วส่งรายชื่อคนของตนเองขึ้นไปทั้ง สตง.และ ปปช. แต่ถูกตีกลับ แล้วยังไม่รู้ตัวว่ากระทำมิควร ไม่ยอมลาออกแสดงสปิริตแม้แต่คนเดียว

13. กว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนอย่างหนักหลังจากได้อำนาจครบ 4 ปี

14. กว้านซื้อธนาคารและสถาบันการเงินอย่างหนักหลังจากได้อำนาจครบ 4 ปี

15. ข้าวแกง ก๋วยเตียวขึ้นราคาชามละ 5 บาท แต่ค่าแรงกรรมกรขยับแค่ 1-6 บาทในเพียง 16 จังหวัด นอกนั้นไม่ขึ้นให้เลย ไหนค่าเล่าเรียนของลูกๆ อีกที่เบิกไม่ได้เลย เขาอยู่กันอย่างไรในยามข้าวยากหมากแพงเช่นนี้

16. รัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน รัฐบาลไม่มีความสามารถพัฒนาให้มีกำไรได้ แต่กลับเก่งขายรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรให้ต่างชาติและพรรคพวกตนกว้านซื้อหุ้นรวยกันเละ

17. กลิ่นเหม็นสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าก่อสร้างหนึ่งแสนหกหมื่นล้านบาท ยุบยับคอรัปชั่นฮั้วเหมางานทุกตารางนิ้ว ญาติพี่น้องมามั่วกันครบเครื่อง

18. กำไรจำหน่ายสลากกินแบ่ง เคยเข้าคลังเข้ารัฐ ปัจจุบันไม่เข้าคลัง รัฐบาลเอาไปแจกจ่ายใครกันอย่างไร เปิดเผยเสียที

19. เปิดเสรีเต็มประตูทะเลเพราะตนเองก็เป็นนักลงทุนข้ามชาติ เกรงใจบุชแห่งอเมริกาเป็นอย่างยิ่ง ร้านค้าย่อยคนไทยทยอยปิดกิจการ ห้างต่างชาติพากันขนเงินกำไรไหลออกเข้าบริษัทแม่ที่ต่างชาติ เลือดไทยไหลออกทุกวัน

20. รถไฟไทยขาดทุน ไม่เคยมีผู้บริหารเก่ง สามารถพัฒนาให้ดีมีกำไรได้สักคน แต่เก่งขายรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรอยู่แล้วเข้าตลาดหุ้น แล้วพรรคพวกตนเองก็กว้านซื้อ ทำกำไรให้ตนเองมหาศาล

21. พยายามผลักดันให้ กชท. ทำหน้าที่แทน กสช. เอื้อผลประโยชน์เครือข่ายการสื่อสารให้ตนเองและพรรคพวก

22. อุ้มฆ่าชาวบ้านอย่างหนัก สร้างเงื่อนไขสงคราม บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติอย่างไม่เคยมีมาก่อน

23. ชุมชนง่อยเป็นเปลี้ย รอแต่เงินรัฐบาลโยนมารอบแล้วรอบเล่า ไม่พัฒนาตนเองได้เพราะ ร้าน SML ที่รัฐบาลให้เงินมาได้ปิดกิจการหมดแล้ว แข่งขันกับห้างต่างชาติไม่ได้ นโยบายผลาญงบแผ่นดิน ไม่เคยมีนโยบายให้พึ่งตนเองได้อย่างถาวรสักโครงการ

24. ใช้เวลาเพียง 6 ปี เท่านั้น รัฐวิสาหกิจ การสื่อสาร คมนาคม ดาวเทียม สถาบันการเงิน โรงพยาบาล สินเชื่อ สื่อ อยู่ในกำมือตนสิ้น ขายธุรกิจตนเองไม่จริง แฝงซื้ออยู่ในกองทุนต่างชาติ เพื่อหลบหนีภาษีและหลบลี้ภัยตามยึดไม่ได้ภายหลังหมดอำนาจ

25. รถยนต์แห่งชาติ กาแฟแห่งชาติ เทคโนโลยีแห่งชาติ อาวุธแห่งชาติ สินค้าแบรนด์เนมไทยไม่มีโอกาสได้เกิด เพราะพวก“นายหน้าทุนต่างชาติ” เข้ามาร่วมบริหารอยู่ในรัฐบาลต้องรักษาผลประโยชน์แห่งตนไว้ก่อน

26. ประเทศไทยยังมีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มาก เช่น ภาคอีสานจากการ สำรวจพบว่ามี แร่ทองแดงและโพแทสเซียม สมบูรณ์ที่สุดในโลก ร่าง พ.ร.บ.เสียเปรียบให้ต่างชาติเข้าครอบครองในการทำเหมืองดังกล่าวสิ้น

27. ชาวบ้านรากหญ้ามีแต่หนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ เปิดโครงการให้กู้เงินอีกสถาบันมาล้างหนี้อีกสถาบันยิ่งเสียดอกมากขึ้น คนจนจะไม่มีอีกต่อไป เพราะอดตายกันหมดแล้ว

28. โกงลำไยแห้ง โกงโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่านหลายหมื่นล้าน เอาตัวเล็กๆ มาเป็นแพะ ตัวใหญ่ลอยนวลเพราะอยู่ใกล้ตัว

29. ปลอมวุฒิการศึกษา คาร์ปาร์คสุดอื้อฉาว ทุจริตกล้ายาง ก็เงียบฉี่

30. ต่ออายุราชการให้น้องเขยครั้งแล้วครั้งเล่า

31. ให้ฝรั่งมังค่าเข้ามาประมูลประเทศถึงทำเนียบ โดยสภาพัฒน์และนายคลังยังไม่รู้นโยบายประเทศของตนเองเลยว่า “มีแบบนี้ด้วยเหรอ” แต่ไม่มีโครงการที่จะเอาฝรั่งที่ชำนาญการปราบคอรัปชั่นเข้ามาด้วย เพราะตอนนี้ประชาระทมโดนโกงกันจนคลัง “ถังแตก” แล้วครับ

32. คอมมิชชั่นเครื่องบิน SU-30 MK กำลังจะเข้าปากหมา พวกกัลยาณมิตรกลับใจไม่น่ามาขวางเลย

33. ที่แท้พรรคพวกได้ผลประโยชน์ข้างเคียงก่อสร้างไนท์ซาฟารี

34. ให้คนแกล้งหมอพรทิพย์เพราะต้องการเอาคนของตัวเองเข้าไปแทน

35. เอาวัตถุทั้งรถและบ้านมายั่วแจกให้แท็กซี่ไปฟังตนปราศรัย แล้วยังมีหน้าพูดจายั่วยุคนที่คิดเห็นต่างตนว่ารับจ้าง

36. เหยื่อสึนามิ ไม่ได้รับการช่วยเหลือทั่วถึงแต่อย่างใด สื่อรัฐเสนอแต่ส่วนที่ช่วยแล้วได้ออกทีวี ปกปิดข้อเท็จจริง

37. ห้ามทีวีออกรายการช่วยน้ำท่วมภาคใต้ แบ่งแยกดินแดนชัดๆ

38. เซ็นสัญญา FTA โดยไทยเสียเปรียบมาก ไทยขาดการวิจัยและผลิตยา 20 กว่าชนิดเป็นเวลา 25 ปี และไม่ให้ปลูกข้าวหอมมะลิสองสายพันธุ์ ต่างชาติอ้างถือสิทธิบัตร รวมถึงการเกษตร ให้เสรีนำเข้าตีภาคผลิตของคนไทย ทุนนิยมสุดโต่ง

39. ทำลายความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ ข้าราชการ, เจ้าหน้าที่รัฐ บ้าอำนาจใช้พระเดชปกครอง ขู่เข็ญ สร้างเงื่อนไข ให้ข้าราชการรับใช้สอพลอตน ถ้าแสดงออกได้ดี จะได้รับตำแหน่งข้ามหัวเพื่อน

40. ยุทธ ตู้เย็น ขี้ขลาดตาขาว ยิงตายายเกือบตาย ถ้าไม่ถูกตู้เย็นพรุนเสียก่อน วันนี้มันจ้างคนงานชั่วคราวป่าไม้ มาก่อกวนการเสวนาตามระบอบประชาธิปไตยถึงกรุงเทพฯ

41. ผู้นำและครม. หลายคนขับรถจักรยานยนต์ในอำเภออาจสามารถ ที่หมอดูสั่งให้ไปนอนให้ครบ 4 คืน มิฉะนั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ทำผิดกฎหมายไม่ใส่หมวกกันน๊อค ซ้อนท้าย 3 คนไม่เปิดไฟไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ออกกฎหมายบนถนนว่าถนนรองไม่ต้องใส่หมวก

42. ไปสิงคโปร์ 4 วันเพื่อบรรลุข้อตกลง ให้ต่างชาติซื้อหุ้นได้เงินเกือบแสนล้าน แท้จริงเป็นการโยกหุ้นไปอยู่ในกองทุนต่างชาติ เพื่อหลบหนีภาษีและป้องกันการถูกยึดในภายหลังหมดอำนาจ แอบตั้งบริษัทที่ไม่รักชาติ เพื่อซุกซ่อนสมบัติ เลี่ยงภาษีที่เกาะหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น

43. มีจิตใจอาฆาตต่อราษฎรและไร้เมตตาธรรมต่อผู้ที่คิดเห็นต่างตน แม้ 19 ล้านเสียงก็ขว้างเกือกคืนให้แล้วยังมีหน้าเอามาอ้างอีก

44. ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนใหญ่ไม่กี่ตระกูล ที่รวมหัวกับต่างชาติปั่นทำกำไร

45. ศักดิ์ศรีประเทศไทยอยู่ตรงไหน ต่อการขายสมบัติของแผ่นดินไปให้ต่างชาติ แถมกำไรเข้ากระเป๋านักการเมือง เขาซื้อเราขาย ใครเป็นมหาอำนาจ ใจเป็นขี้ข้าหมดทรัพย์ หนังคนละเรื่องกันเลย

46. ไม่เคยมียุคใดสมัยไหนที่คณะผู้บริหารชาติบ้านเมืองคิดพิเรนทร์ ขนาดจะขายแผ่นดินไทยเหมือนยุคสมัยแห่งรัฐบาลนี้อีกแล้ว เตรียมออกกฎหมายที่ดิน เพื่อเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถ “ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน” ของประเทศไทยได้ พอดีมีเรื่องขับไล่เสียก่อน

47. ชาวบ้านตั้งคำถาม 50 ข้อ ไม่เคยตอบแม้แต่ข้อเดียว กลับยุบสภาหนีคำถาม เก่งแต่ฟ้องร้องแก้เกี้ยว เมธี ปัญญาชนถูกฟ้องไปทั่ว

48. จ้างผู้สมัครพรรคอื่นให้ลงสมัคร ส.ส. เพื่อหาความชอบธรรมในสภา มหาโจรหน้าเหลี่ยมใช้สภา และอาศัยอาศัยรูปแบบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการปล้นชาติกินเมือง

49. ตระบัตสัตย์ กระล่อน โมฆะบุรุษ ไม่มียางอาย เคยให้สินบน "ทรราชสุจินดา" สุจินดาจึงเชียร์มันสุดๆ

50. ไม่มีคนดีๆ ไม่มีปัญญาชนคนไหนชื่นชอบ ล้วนขับไล่ไสส่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน

51. ขี้นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา น้ำมัน และต้องไปจ่ายเองที่ออฟฟิซ ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่มินิมาร์ท การที่ผู้บริโภคต้องใช้รถราไปจ่ายเอง ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มทุกครัวเรือน ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่หุ้นน้ำมันก็คือเจ้าของระบอบชั่วนี้

52. ตั้งบริษัทนอมินีให้เครือญาติมาเกี่ยวข้องงานราชการ ฮั้วประมูลงาน รวยล้นฟ้าภายในห้าปี แต่ละเครือรวยกันจริงๆ แบบไม่กลัวบาปกรรมแม้แต่น้อย

53. ไปเจ็ดประเทศไปบังคับฑูตให้ติดต่อผู้นำดังกล่าวอย่างเสียมารยาท ทั้งเหมาลำนั่งกันสองคน ใช้เงินภาษีราชการ เศรษฐีขี้เหนียว มันสารเลวจริงๆ มีแต่ปูตินของรัสเซียให้พบเพราะอยากถามเรื่องซื้อเครื่องบินจะว่าไง

54. นางแว่น กลิ่นเหม็นคอมมิชชั่นเครื่องคอมฯ พวกหมอพวกพยาบาลเกลียดหนักหนา ไม่รู้รวยมาจากไหนเอาเงินกว้านซื้อที่ดินตามเกาะต่างๆ ทั้งในอ่าวไทยและอันดามันหลายร้อยแปลง รวมพันล้านบาท แล้วให้ ครม. งุบงิบแอบออกกฎหมายขายชาติ เตรียมขายที่ดินที่พรรคพวกตนกว้านซื้อขายต่อ ฟาดกำไรให้ชาวต่างชาติจากกฎหมายขายชาติดังกล่าว (รายละเอียดฟังได้ที่นี่ mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/JurmsakTalk_160306_H.wmv )

55. น้ำท่วมไฟลุกทั้งแผ่นดิน เพราะคนตระบัตสัตย์ คนโกง คนไร้จริธรรมเข้าทำเนียบ

56. เป็นผู้นำคนเดียวในโลกที่มีคนแต่งเพลงไล่ให้ออกไป 200 กว่าเพลง แหล่ กลอนกวี การ์ตูน ด่าไล่เป็นจังไรมากที่สุดในโลก

57. ไม่เคยตอบคำถามที่ชาวบ้านถาม มันกลับฟ้องแก้เกี้ยวรกเต็มศาล ทั้งปัญญาชน เมธี คนรักชาติถูกมันฟ้องเรียกค่าเสียหายไปทั่วเมือง ล่าสุดเรียก 1 พันล้านบาท เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก็ยังเคยถูกมันฟ้องเรียก 400 ล้านบาท แสดงว่ามันยังรวยไม่พอ อย่างนี้จะให้มันอยู่ในทำเนียบอีกหรือ? ออกไป๊...ยิ่งรวยยิ่งโกง

56. ทั่วโลกบอยคอตรัฐบาลเผด็จการพม่าที่กักขังนางอองซูจี ไม่ช่วยเหลือใดๆ แต่มันกลับเอาเงินเอ็กซิมแบ็งก์ให้พม่ากู้ 5 หมื่นกว่าล้าน แลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวขายสัญญาณดาวเทียม

57. ยุคนี้บริษัทใหญ่ๆ ของนักการเมืองและเครือญาติ หลีกเลี่ยงภาษีกันอย่างหนัก เพราะมันควบคุมกลไกของรัฐไปทุกหย่อมหญ้าเบ็ดเสร็จ

58. ล่าฆ่าปิดปากชิปปิ้งหมู ที่ออกมาเปิดเผย การลักลอบเอาชุดดาวเทียมหนีภาษีเข้าประเทศ เป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท

59. งานประมูล งานรับเหมาของรัฐ ยุคนี้ วนเวียนอยู่แต่ในบริษัทนอมินีของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่มีการกระจายอย่างกว้างขวางไปให้บริษัทอื่นๆ บ้างเหมือนดังที่ผ่านๆ มา

60. ครม.ทั้งชุดคือลูกจ้างของบริษัทเหลี่ยมดาวเทียม ไม่ไปไหนเงินดีงานดี หนา ยิ่งกว่าวาสนา

61. จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง กลายเป็นคนจ้างไม่ผิด แต่คนมีรูปถ่ายเป็นหลักฐานผิด กล้องถ่ายรูปผิด เหมือนตากใบ จับชาวบ้านมัดมือไพล่หลัง แล้วเตะคาง เตะก้านคอ ให้นอนซ้อนทับกันในรถบรรทุกจนตาย คนทำทารุณกรรมไม่ผิด กลายเป็นวีซีดีผิด!

62. เมียทรราชและนายหญิงทั้งหลายกว้านซื้อที่รอบๆ สนามบินแล้วรีบออกกฎหมายปั่นที่ดิน หวังเทขาย หวังรวยติดอันดับโลก

63. ปากทรราชพูดจะเจริญรอยตามนโยบายเศราฐกิจเพียงพอแต่พฤติกรรมมัน "ให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจไทยหมดสิ้น"

64. มันพูดแต่คำว่า "กติกาประชาธิปไตย" โดยมันซื้อยกพรรค ซื้อยกหมู่บ้าน ประชาธิปไตยภาษาพ่อมัน

65. น้องสาวมันปลอมวุฒิการศึกษา เดี๋ยวนี้รวยเป็นพันๆ ล้านกว้านซื้อที่ดินซื้อหมู่บ้านได้มากมาย


*****

ํำYet another compilation

“คู่มือทรราช” ประกอบด้วย

1. ยึดรัฐบาล เริ่มด้วยการยึดสภาหรือกวาดซื้อ ส.ส. ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งพรรคเดียวเป็นครั้งแรก

2. ยึดธุรกิจผูกขาด เน้นที่ 6 ประเภทหลักคือ สถาบันการเงิน ธุรกิจการไฟฟ้า ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจการประปา

3. ยึดองค์กรของรัฐ วางคนของตัวเองในตำแหน่งสำคัญๆ ในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ และรัฐวิสาหกิจ เฉพาะด้านการทหาร นอกจากวางคนของตัวเองในตำแหน่ง ผบ.สำคัญๆ แล้ว ต้องทำให้กองทัพอ่อนแอลงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

4. ทำลายคู่แข่งทางการเมือง วิธีการทำลายที่ดีที่สุดก็คือทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ

5. ทำลายคนดี ต้องทำลายเพราะคนดีเป็นอุปสรรคการโกงชาติ ปล้นประชาชน วิธีการที่ดีที่สุดคือซื้อสื่อ

6. ทำลายภาคประชาชน ให้ตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการเตะถ่วงขัดขวางความเติบโตของภาคประชาชนด้วย การทำให้พวกเขาขาดแคลนใน “3 ชั่น” คือ Education, Organization, และ Information และวิธีการอื่นๆ

7. ขัดขวาง(ทำลาย)การปฏิรูปทางการเมือง

8. สร้างภาพลักษณ์ เน้นวิธีการ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” และซื้อนักวิชาการ

9. สร้างเครือข่ายพันธมิตร ควรประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ เช่น นักการเมือง, นักธุรกิจ, ข้าราชการระดับสูง, ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ, นายทหารระดับสูง, มาเฟีย, สื่อมวลชนอาวุโส

10. สร้างการบริหารองค์กรทรราช ต้องบริหารแบบทรราชมืออาชีพ และพัฒนาฝีมือตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ได้รับความยอมรับและเชื่อมโยงกับทรราชสากล

นำสูตร “3 ยึด 4 ทำลาย 3 สร้าง” ของ ดร.วุฒิพงษ์ ไปเทียบเคียงกับสถานการณ์ประเทศไทยในห้วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมาและวิธีการที่ได้มาซึ่งอำนาจ